เมื่อคำค้นหาเกี่ยวกับอาหารของคนเลือดกรุ๊ปบีกำลังได้รับความนิยมในตอนนี้ ทำให้เห็นว่ามีหลายคนที่ไม่เคยมีความรู้เกี่ยวกับการเลือกทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดของแต่ละคนมาก่อน เพราะความจริงแล้วเลือดละกรุ๊ปนั้นมีสารเคมีที่แตกต่างกันออกไป ระบบย่อยอาหาร ระบบฮอร์โมนและระบบอื่น ๆ ในร่างกายก็ไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นการเลือกทานอาหารให้เหมาะกับกรุ๊ปเลือดของแต่ละคน จึงเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ ในวันนี้ตาม Foodspace ไปดูกันว่าอาหารของคนเลือดกรุ๊ปบีมีอะไรที่ควรรับประทานและมีอะไรที่ควรหลีกเลี่ยงบ้าง เพื่อให้มีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง
เช็คลิสต์อาหารของคนเลือดกรุ๊ปบี ควรเลือกทานอาหารรูปแบบไหนถึงจะเหมาะกับกรุ๊ปเลือด ห้ามพลาด
ด้วยความโชคดีของชาวกรุ๊ปเลือดบีทำให้ค่อนข้างจะได้เปรียบในเรื่องของเมนูอาหาร เพราะสามารถเลือกทานได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์หรือผักผลไม้ แต่แน่นอนว่าทุกอย่างทุกอยู่ในขอบเขตของความพอดี ต้องเลือกทานในปริมาณที่เหมาะสมจึงจะดีที่สุด โดยเน้นไปที่เนื้อปลา ในส่วนของผักให้เลือกทานผักใบเขียวเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ FoodSpace ยังมีเครื่องดื่มมาแนะนำกันด้วย ชาวกรุ๊ปบีต้องไม่พลาดที่จะดื่มน้ำขิงเป็นประจำ หรือจะเป็นชาเขียว และโสมก็ย่อมได้ ช่วยเพิ่มความอบอุ่นแก่ร่างกาย ป้องกันอาหารแพ้อากาศ และควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแป้งสาลี โฮลวีต ถั่วลิสง มะเขือเทศและข้าวโพด เพราะจะส่งผลให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ไม่ดี เสี่ยงต่อโรคอ้วน
3 สูตรอาหารของคนเลือดกรุ๊ปบี มัดรวมมาให้ทั้งเมนูคาวและหวาน ถูกในอย่างแน่นอน
1.ต้มยำไก่
ส่วนผสมต้มยำไก่
- เนื้อไก่ 300 กรัม
- เครื่องในไก่ 300 กรัม
- เห็ดชิเมจิ 50 กรัม
- พริกแดงจินดา 5-8 เม็ด
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น ½ ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- พริกป่น ½ ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมเครื่องต้มยำไก่
- ข่าอ่อน 4 แว่น
- ตะไคร้ 3 ต้น
- ใบมะกรูด 5 ใบ
- มะขามเปียก 4 ฝัก
- หอมแดง 3 หัว
- มะเขือเทศ 2 ลูก
- ผักชีฝรั่งซอย สำหรับโรยหน้า
ขั้นตอนและวิธีในการทำ
- มาเริ่มต้นอาหารของคนเลือดกรุ๊ปบีกันด้วยต้มยำไก่ ขั้นตอนแรกตั้งหม้อแล้วใส่น้ำเปล่าลงไปพอประมาณ ต้มจนกว่าจะเดือด จากนั้นก็ตามด้วยมะขามเปียก ข่าอ่อน ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง และมะเขือเทศ
- ต่อไปให้ใส่เนื้อไก่และเครื่องในไก่ลงไป ขั้นตอนนี้ให้เร่งไฟแรงขึ้น ระหว่างรอให้เดือดอีกครั้งให้หมั่นตักฟองสีขาวออก แล้วต้มจนกว่าเนื้อไก่และเครื่องในไก่จะสุก
- เมื่อน้ำกำลังเดือดได้ที่ให้ใส่เห็ดชิเมจิลงไป ต้มจนสุกแล้วจึงใส่พริกจินดา และปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ปิดไฟ แล้วปิดท้ายด้วยการเติมน้ำปลาและน้ำมะนาวลงไปทันที
- ก่อนนำไปเสิร์ฟให้โรยหน้าด้วยผักชีฝรั่ง แล้วใส่พริกป่นเพื่อเพิ่มสีสันได้ตามความชอบ เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น
2.ข้าวต้มปลากะพง
ส่วนผสม
- ปลากะพง
- ข่าอ่อน
- รากผักชี
- กระเทียม
- กุ้งแห้ง
- หมึกแห้ง
- เกลือ
- ซีอิ๊วขาว
- รสดี
- ข้าวหอมมะลิ
- พริกไทย
- กระเทียมเจียว
- ขึ้นฉ่าย
- ต้นหอม
- พริกน้ำส้ม
- พริกป่น
ขั้นตอนและวิธีในการทำ
- เริ่มต้นด้วยการล้างทำความสะอาดเนื้อปลากะพง แล้วหั่นเป็นชิ้นขนาดตามต้องการ จากนั้นพักไว้แล้วไปเตรียมส่วนต่อไป
- ขั้นตอนต่อมาให้ตั้งหม้อ เติมน้ำแล้วต้มจนเดือดค่อยใส่รากผักชี กุ้งแห้ง และหมึกแห้งไปก่อน ปรุงรสด้วยเกลือ ซีอิ๊วขาว และเครื่องปรุงรส จากนั้นต้มต่อให้น้ำเดือดอีกครั้ง หรือจนกว่าหมึกและกุ้งจะเนื้อนุ่มเด้ง
- ตั้งหม้ออีกใบแล้วต้มน้ำรอจนกว่าจะเดือดอีกเช่นกัน หลังจากนั้นใส่ข้าวหอมมะลิ ข่าป่น และขึ้นฉ่ายไปต้มให้เดือดพอประมาณ จึงใส่เนื้อปลากะพงที่เตรียมไว้ลงไปลวกจนสุก
- ในส่วนของการจัดเสิร์ฟ ให้ตักข้าวใส่ชาม ราดด้วยน้ำซุปรสละมุน เติมพริกไทย โรยหอมเจียว ขึ้นฉ่าย และต้มหอม การได้ทานซุปร้อน ๆ คู่กับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว แถมรับประโยชน์จากเนื้อปลาเป็นสิ่งที่ชาวกรุ๊ปเลือดบีคู่ควร
3.มัฟฟินข้าวโอ๊ตกล้วยหอม
ส่วนผสม
- ข้าวโอ๊ต 2 ถ้วย
- กล้วยหอมสุกลูกใหญ่ 2 ลูก
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- กรีกโยเกิร์ต 1 ถ้วย
- น้ำผึ้ง 2-3 ช้อนโต๊ะ
- ผงฟู 1½ ช้อนชา
- เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา
- กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
- เกลือโคเชอร์ 1/8 ช้อนชา
- ช็อกโกแลตชิพ ดาร์กช็อกโกแลตสับ ถั่ว หรือ บลูเบอร์รี ½ ถ้วย
ขั้นตอนและวิธีในการทำ
- มาถึงอาหารของคนเลือดกรุ๊ปบีที่เป็นขนมหวานกันบ้าง เริ่มต้นด้วยการเปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 400 องศาฟาเรนไฮต์เตรียมไว้ ระหว่างนั้นก็จัดถ้วยกระดาษมัฟฟินรอจำนวน 12 ถ้วย
- สูตรนี้จะใช้เครื่องปั่นน้ำผลไม้หรือเครื่องบดอาหารในการทำ โดยให้เทส่วนผสมทั้งหมดลงไปแล้วทำการปั่นผสมให้เข้ากัน ในเวลาประมาณ 3 นาที เปิดฝาเพื่อคนให้ส่วนผสมเข้ากันอีกครั้ง
- จากนั้นให้เทส่วนผสมที่ปั่นเตรียมเทลงในถ้วยกระดาษประมาณ 3/4 ส่วนของถ้วย เพื่อไม่ให้เนื้อขนมหลังจากอบเสร็จล้นทะลัก ก่อนเอาเข้าเตาอบโรยหน้าด้วยช็อกโกแลตชิพหรือถั่วก่อน แล้วนำเข้าเตาอบเป็นเวลาประมาณ 15 นาที หรือรอจนกว่าแป้งจะฟูขึ้น
- หลังจากแป้งขนมได้ที่ให้นำออกจากเตา พักไว้ให้เย็นก็สามารถจัดเสิร์ฟคู่กับเครื่องดื่มแก้วโปรด หรือผลไม้สำหรับสายสุขภาพก็ได้เช่นกัน