คนรักเนื้อต้องถูกใจสิ่งนี้! พาไปส่องสาระน่ารู้เกี่ยวกับเนื้อมัตสึซากะ วากิวชั้นเลิศระดับพรีเมียม

หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบและหลงใหลไปกับการทานเนื้อวัวต้องไม่พลาดลิ้มลอง “เนื้อมัตสึซากะ” สักครั้งรับรองว่าต้องติดใจ ด้วยชื่อเสียงที่โด่งดังในเรื่องของรสชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ความนุ่มระดับตำนานที่เป็นที่เลื่องลือกันนั้น ว่ากันว่ามาจากการคัดสรรเนื้อวัวที่ดีที่สุดมาถึงโต๊ะ บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับหนึ่งในเนื้อวากิวเกรดพรีเมียมอย่างมัตสึซากะ สัมผัสความพิเศษของวัตถุดิบชั้นเลิศที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ตามเราไปดูกันว่าเนื้อราคาแพงถึงหลักพันบาทต่อกิโลกรัมมีที่มาที่ไปอย่างไร ไปติดตามกันได้เลย

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ทำความรู้จักกับเนื้อมัตสึซากะ เปิดประวัติความเป็นมาก่อนมาเป็นสุดยอดของเนื้อวัวที่หลายคนใฝ่ฝัน

เนื้อมัตสึซากะ เป็นเนื้อวัวเกรดพรีเมียมที่ได้จากวัวญี่ปุ่นขนสีดำสายพันธุ์แท้ 100% หนึ่งในสายพันธุ์ดั้งเดิมที่เลี้ยงกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยเอโดะแถบเมืองมัตซึซากะ จังหวัดมิเอะ แต่ในอดีตผู้คนยังไม่นิยมทานเนื้อวัวกันมากนัก ส่วนใหญ่จึงเลี้ยงไว้ใช้แรงงานเสียมากกว่า และเน้นเลี้ยงเพียงแค่วัวเพศเมียที่ไม่เคยผสมพันธุ์ เวลาผ่านไปจนเข้าสู่ยุคเมจิ ญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมตะวันตกมากขึ้น ทำให้คนในประเทศเริ่มหันมาเปิดใจทานเนื้อวัวกันมากขึ้น ทำให้เนื้อวัวที่ถูกเลี้ยงในเมืองแห่งนี้ถูกนำออกไปจำหน่ายนอกเมือง และลงเอยด้วยการเลิกเลี้ยงวัวเพื่อนำไปใช้ทางการเกษตรในที่สุด 

จนเมื่อในปี ค.ศ. 1935 “กรมปศุสัตว์เนื้อวัวเชิงพาณิชย์แห่งประเทศญี่ปุ่น” ได้มอบรางวัลให้เนื้อวัวจากมัทซึซากะ จนทำให้ในปัจจุบันกลายมาเป็นกลุ่มเนื้อ Wakyu ที่ได้รับการยอมรับให้เป็น 1 ใน 3 เนื้อวัวคุณภาพสูงของญี่ปุ่นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ส่วนเนื้ออีกสองประเภทได้แก่ เนื้อโกเบส่งตรงจากจังหวัดเฮียวโงะ และเนื้อโอมิ ที่มีชื่อเสียงในจังหวัดชิงะ นอกจากนี้ยังได้รับการการันตีคุณภาพจากการแข่งขันสุดยอดวากิวโอลิมปิก 2 ปีซ้อน ได้แก่ปี ค.ศ. 2007 และ ค.ศ. 2012 เรียกได้ว่าเป็นอาหารที่ต้องลิ้มลองสักครั้งในชีวิต

ส่องการเลี้ยงดูสุดยอดสายพันธุ์วัวของญี่ปุ่นก่อนเสิร์ฟเนื้อมัตสึซากะ งานศิลปะแห่งเนื้อที่ต้องคัดสรรเป็นพิเศษ

เนื้อมัตสึซากะ ขึ้นชื่อว่าเป็นเนื้อวัวที่นุ่มละมุนเนื่องจากผ่านการเลี้ยงมาอย่างอ่อนโยน อย่างที่เราได้เกริ่นไปแล้วว่า เนื้อวัวยอดฮิตจากเมืองมัตสึซากะมาจากวัวสายพันธุ์ขนสีดำของญี่ปุ่น โดยต้องเป็นวัวเพศเมียที่ไม่เคยผ่านการผสมพันธุ์มาก่อน ต้องเลี้ยงอยู่ในเมืองมัตสึซากะหรือเมืองใกล้เคียง และใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 30 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งโดยมากลูกวัวที่เลี้ยงกันอยู่ไม่ได้เกิดจากการผสมพันธุ์ในเมืองมัตสึซากะ แต่ส่งตรงมาจากหุบเขาทาจิมะในเขตจังหวัดเฮียวโงะเพื่อมาเลี้ยงยังฟาร์มในเมือง พันธุ์ลูกวัวมีมูลค่าเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 500,000 เยน หรือประมาณ 150,000 บาท แน่นอนว่ามูลค่าก็ไม่น้อยเลยทีเดียว 

การผลิตเนื้อวัวญี่ปุ่นเพื่อให้ได้มา ซึ่ง Matsuzaka Beef แสนอร่อยจะใช้เทคนิคในการเลี้ยงที่มีความอ่อนโยน และละเมียดละไมสุด ๆ สภาพแวดล้อมภายในฟาร์มจะถูกสร้างมาเพื่อการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายของวัว ผู้เลี้ยงจำเป็นต้องให้ความรัก และมีความใส่ใจในรายละเอียดเป็นพิเศษ เน้นไปที่ด้านสุขอนามัย จะต้องมีการทำความสะอาดโรงเรือนทุกวันเพื่อความสะอาด และต้องมีการบำบัดอารมณ์ของวัวอยู่เสมอ ในแต่ละวันก็จะได้เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงคลาสสิกที่ดังไปทั่วทุ่งกว้าง ไม่ออกกำลังกายมากเกินไป น้ำต้องดี อากาศก็ต้องบริสุทธิ์ บรรยากาศถ่ายเทสะดวก เงียบสงบ เพื่อลดความเครียดซึ่งเป็นสาเหตุที่อาจทำให้เนื้อวัวไม่อ่อนนุ่มได้

ช่วงเวลาก่อนจะถูกเชือดประมาณ 2-3 เดือน วัวในฟาร์มจะถูกขุนด้วยอาหารที่มีคุณภาพและมีกากใยสูงเช่น ข้าวโพด ต้นข้าว ข้าวสาลีป่น ฟางข้าว หญ้าแห้งเกรดดี หรืออื่น ๆ โดยอาหารจำพวกนี้จะเข้าไปขยายกระเพาะและทำให้วัวสามารถกินได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังให้วัวดื่มสาเกหรือเบียร์อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อกระตุ้นความรู้สึกอยากอาหาร ทั้งยังช่วยให้เจริญอาหารอีกด้วย ปิดท้ายด้วยการนวดตัววัวเป็นระยะ เพื่อช่วยให้ไขมันสามารถกระจายและแทรกตัวได้ดีขึ้นนั่นเอง และไขมันเหล่านี้เป็นไขมันดีที่มีคุณค่าทางโภชนาการ มาพร้อมกับ  Omega-3 และ Omega-6 อร่อย นุ่มละมุน แถมประโยชน์เต็มคำ

บทสรุป How to ดื่มด่ำไปกับมื้อสุดพรีเมียม เคล็ดลับการทานเนื้อมัตสึซากะให้อร่อย ต้องทำอย่างไร ไปดู!

ด้วยกระบวนการการเลี้ยงสุดพิเศษทำให้ได้วัวมีความอุดมสมบูรณ์มากกว่าวัวทั่วไป เนื้อมัตสึซากะ จึงเป็นเนื้อที่มีการแทรกของชั้นไขมันกระจายทั่วทุกอณู ไม่น่าแปลกใจที่เมื่อหั่นออกมาเป็นชิ้นแล้วจะเห็นลวดลายคล้ายหินอ่อน สวยงาม น่าทานสุด ๆ เอกลักษณ์ของ Matsusaka beef ที่รับรู้ได้จากสัมผัสนุ่มละมุนลิ้นจะมีความชุ่มฉ่ำ ละลายในปาก แถมยังมีกลิ่นหอมชวนให้อยากลิ้มลองซ้ำ ๆ เคล็ดลับการทานก็ไม่ยาก เพียงแต่นำไปเป็นส่วนประกอบของเมนูสเต็ก สุกียากี้ ชาบู-ชาบู หรือ เทปันยากิ ก็บอกเลยว่าอร่อยฟินอย่างแน่นอน

ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace