หน่อไม้ หรือส่วนประกอบที่เป็นหน่ออ่อนของต้นไผ่ สามารถนำมาประกอบเมนูอาหารไทยได้หลากหลายเมนู รสสัมผัสค่อนข้างจืดและค่อนข้างกรอบ ให้สารอาหารที่หลากหลาย แต่ก็มีข้อควรระวังในการทานอยู่เช่นกัน ในบทความนี้ได้รวบรวมความรู้เกี่ยวกับหน่ออ่อนของต้นไผ่เอาไว้ ทั้งประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ วิธีการทานให้ปลอดภัย และสูตรอาหารที่น่าสนใจ หากพร้อมแล้วไปติดตามเรื่องราวเหล่านั้นกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
พาส่องประโยชน์ของหน่อไม้ อร่อยง่ายได้ประโยชน์
หน่อไม้ ส่วนประกอบหนึ่งของต้นไผ่ ที่เป็นแหล่งรวมของสารอาหารและแร่ธาตุหลายชนิด ประโยชน์ของหน่อไม้ส่งผลดีต่อร่างกายหลายด้าน เนื่องจากมีใยอาหารที่สูง จึงมีส่วนช่วยบำรุงลำไส้ให้สามารถทำงานได้ตามปกติ ป้องกันอาการท้องผูก ทั้งยังมีส่วนช่วยลงความเสี่ยงของการเกิดโรคหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นโรคริดสีดวงทวารหรือมะเร็งลำไส้
นอกจากนี้ใยอาหารจากหน่อไม้ยังเป็นชนิดที่สามารถละลายน้ำได้ จึงช่วยละระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้เป็นอย่างดี อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายทั้งโปรตีน แมงกานีส โพแทสเซียม วิตามินบี 6 รวมทั้งวิตามินและแร่ธาตุชนิดอื่น ๆ มีไฟเบอร์สูงแต่แคลอรีต่ำ ทำให้รู้สึกอิ่มนาน เหมาะกับการควบคุมน้ำหนัก ช่วยลดปริมาณการกิน
ส่งเสริมระบบการเผาผลาญในร่างกาย ทำให้ระบบย่อยอาหารทำได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งยังบำรุงรักษาระบบหัวใจและหลอดเลือด เสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงไปพร้อมกับระบบภูมิคุ้มกัน เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระ ยังไม่พอแต่เพียงเท่านี้ เพราะยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด และป้องกันภาวะโลหิตจางอีกด้วย
ข้อควรระวังในการทานหน่อไม้ เลือกทานอย่างไรจึงจะปลอดภัย
นอกจากหน่อไม้จะมีประโยชน์หลายด้าน แต่ก็ยังมีข้อควรระวังที่ควรทราบก่อนทานด้วยเช่นกัน โดยควรคำนึงถึงสุขภาพของผู้ทานเป็นหลัก ก่อนทานควรทำให้สุกโดยการผ่านความร้อน เนื่องจากมักจะพบสารไซยาไนด์ ทั้งนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงการซื้อหน่อไม้ที่บรรจุอยู่ในถุงหรือปี๊บ เพราะอาจพบสารปนเปื้อนได้ สำหรับผู้ที่เป็นโรคเกาต์และโรคไตไม่ควรทาน ที่สำคัญควรทานในปริมาณที่เหมาะสมจึงจะดีต่อสุขภาพและร่างกายมากที่สุด
แชร์ 3 สูตรเมนูอาหารจากหน่อไม้ ทำง่าย ประโยชน์เยอะ
1.แกงเขียวหวานไก่ใส่หน่อไม้
ส่วนผสม
เนื้อไก่ 250 กรัม, หน่อไม้ซอยหั่นเส้น 100 กรัม, พริกแกงเขียวหวาน 3 ช้อนชา, หัวกะทิ 1 ถ้วย, หางกะทิ, น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ, ใบโหระพา ตามชอบ, พริกสดหั่นเฉียง 3 เม็ด
วิธีการทำ
เริ่มจากการเตรียมวัตถุดิบหลัก โดยให้นำหน่อไม้ที่ล้างทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วลงไปต้มในหม้อ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จากนั้นเทน้ำทิ้งแล้วล้างอีกครั้งจึงค่อยตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำ จากนั้นนำหัวกะทิครึ่งหนึ่งใส่ลงไปในหม้อ ต้มด้วยไฟปานกลางและใส่พริกแกงเขียวหวานลงไปผัดให้เข้ากันจนกะทิแตกมัน นำเนื้อไก่ลงไปผัดคลุกเคล้าจนสุกได้ที่แล้วเติมหัวกะทส่วนที่เหลือลงไป ลำดับต่อไปให้ใส่หน่อไม้ที่ผ่านการต้มในขั้นตอนแรกลงไป คนให้เข้ากันแล้วเติมหัวกะทิลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาวและรอให้น้ำกะทิเดือดอีกครั้ง ใส่ใบโหระพาและพริกหั่นลงไปแล้วคนให้เข้ากัน เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟความอร่อย
2.ซุปหน่อไม้
ส่วนผสม
หน่อไม้ปี๊บ 300 กรัม, ข้าวคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ, หอมแดงซอย 3 หัว, ใบสะระแหน่ ตามชอบ, น้ำปลาร้า 3 ช้อนโต๊ะ, น้ำใบย่านาง 1 ถ้วย, ต้นหอมซอย ตามชอบ, ผักชีฝรั่งซอย 1 ถ้วย, พริกป่น 3 ช้อนชา, น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ, มะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ
หนึ่งในเมนูทำง่ายตามสไตล์อาหารอีสาน เริ่มขั้นตอนการทำด้วยการนำหน่อไม้ที่ผ่านการล้างมาจนสะอาด ขูดให้เป็นเส้นตามแนวยาว จากนั้นเตรียมตั้งหม้อแล้วใส่หน่อไม้ขุดและน้ำใบย่านางลงไป ต้มด้วยไฟแรงเป็นเวลา 2 นาที แล้วจึงปรุงรสด้วยพริกป่น น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำปลาร้า และข้าวคั่ว คลุกเคล้าส่วนผสมในหม้อให้เข้ากันดี รอให้เดือดอีกครั้งแล้วใส่ใบสะระแหน่ ผักชีฝรั่ง และหอมแดงลงไปคลุกเคล้าในหม้อ ชิมรสชาติแล้วปรุงได้ตามชอบ เสร็จแล้วตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ ทานคู่กับข้าวสวยหรือข้าวเหนียวก็อร่อยไม่แพ้กัน
3.แกงไตปลา
ส่วนผสม
พริกแกงไตปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ, ถั่วฝักยาว ตามชอบ, หน่อไม้ต้ม ตามชอบ, มะเขือเปราะ ตามชอบ, มะเขือพวง ตามชอบ, ใบมะกรูด ตามชอบ, ปลาโอ ตามชอบ, ไตปลา 1 ถ้วย
วิธีการทำ
มาต่อกันที่เมนูอาหารใต้สุดจัดจ้าน เมนูนี้มีวิธีการทำง่าย ๆ เพียงแค่นำปลาโอไปย่างจนสุกได้ที่ จากนั้นนำมาแกะเอาแค่เนื้อ แล้วเตรียมตั้งหม้อต้มน้ำเปล่าผสมกับไตปลา เมื่อเดือดแล้วให้กรองเอาแต่น้ำแล้วนำไปต้มจนเดือดอีกครั้ง ใส่พริกแกงตามลงไปต้มจนส่งกลิ่นหอม พอเริ่มเดือดอีกครั้งให้ใส่หน่อไม้ลงไปก่อน ตามด้วยเนื้อปลาที่แกะเตรียมไว้ ปรุงรสชาติตามชอบ ปิดท้ายด้วยการใส่ผักชนิดต่าง ๆ ต้มต่ออีกสักพักก็ปิดเตา ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟได้เลย
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace