แกงกะหรี่ หนึ่งในเมนูอาหารญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่คนไทย แต่ต้องยอมรับเลยว่าการสั่งตามร้านอาหารข้างนอกในปัจจุบันราคาค่อนข้างสูง ทำให้หลายคนหันมาเข้าครัวประลองฝีมือทำเองกัน วันนี้เราจึงไม่พลาดจัดสูตรเด็ดความอร่อย ชวนทำเมนูโปรดไปพร้อมกันสักตั้ง พร้อมแนะนำเคล็ดลับในการทำให้อร่อย ทำง่าย แถมขั้นตอนไม่ยุ่งยาก หากพร้อมแล้วไปทำความรู้จักที่มาที่ไปของเมนูนี้ก่อนตะลุยเข้าครัวกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
เปิดตำนานแกงกะหรี่ ส่องประวัติความเป็นมาของเมนูยอดฮิตที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
ความจริงแล้วสูตรต้นตำรับของ “แกงกะหรี่” นั้นไม่ได้มาจากประเทศญี่ปุ่น แต่เป็นอาหารประเภทแกงที่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศอังกฤษ ที่นำเอาสูตรการทำมาจากประเทศอินเดียอีกทีหนึ่ง นั่นคือแกงที่มีชื่อว่า แกงมัสล่าหรือแกงกุรุหม่า โดยได้รับการปรับปรุงสูตรให้เข้ากับวัฒนธรรมการกินของชาวญี่ปุ่น ทำให้มีรสชาติถูกปาก เรียกได้ว่าถูกใจทั้งคนในคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ จนได้รับความนิยมและแพร่หลายไปทั่วโลก กลายเป็นอาหารประจำชาติเลยทีเดียว
วัตถุดิบในการทำก็ไม่ได้มากมาย เน้นไปที่การใช้ผักพื้นฐานอย่างหอมหัวใหญ่ แครอท และมันฝรั่ง ส่วนเนื้อสัตว์มักจะเลือกใช้กันเป็นเนื้อวัว เนื้อหมูและเนื้อไก่ ในปัจจุบันเสิร์ฟกันในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น นอกจากข้าวแกงกะหรี่แล้วก็ยังมีอูด้งแกงกะหรี่ ขนมปังแกงกะหรี่ และอื่น ๆ อีกเพียบ
สูตรการทำแกงกะหรี่ญี่ปุ่น ทำตามง่ายได้ที่บ้าน รับประกันความอร่อย ไม่ต้องง้อร้านข้างนอกอีกต่อไป
ส่วนผสม
- ผงแกงกะหรี่ก้อน 200 กรัม
- หมูเนื้อแดง 400 กรัม
- หอมหัวใหญ่ 5 หัว
- แครอท 2 หัว
- มันฝรั่ง (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) 2 หัว
- น้ำผลไม้รสรวม (ใส่หรือไม่ก็ได้) 100 มิลลิลิตร
- กระเทียม 10–15 กลีบ
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น ตามชอบ
- โชยุ 2 ช้อนโต๊ะ
- คนอร์ซุปก้อน 1 ก้อน
- น้ำเปล่า 1.6 ลิตร
- เกลือ ตามชอบ
- เนยเค็มก้อนเล็ก 1 ก้อน
วิธีการทำ
- เริ่มต้นขั้นตอนแรกด้วยการเทน้ำมันลงในหม้อต้มหรือหม้อสำหรับตุ๋น ใช้ไฟอ่อน ใส่กระเทียมลงไปผัดจนมีสีเหลืองสวยและส่งกลิ่นหอม แล้วตามด้วยหัวหอมใหญ่สไลด์บาง ๆ ผัดต่อจนหอมใหญ่สุกสีสวย ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน และต้องทำอย่างใจเย็น
- หลังจากผัดไปได้ 10 – 15 นาทีแล้ว ให้ใส่เนื้อหมูลงไปผัด สังเกตเมื่อเนื้อหมูเริ่มสุกพอประมาณก็ให้เติมน้ำเปล่าลงไป แล้วตามด้วยหอมใหญ่ แครอท และมันฝรั่ง ตั้งหม้อต้มโดยใช้ไฟปานกลาง จากนั้นตั้งไว้บนเตานาน 30 นาที หลังจากน้ำในหม้อลดลงเล็กน้อยจึงเติมน้ำผลไม้ลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติให้กับจานเด็ดแสนอร่อย
- ปรุงรสด้วยโชยุ พริกป่น เกลือและคนอร์ซุปก้อน จากนั้นใส่ก้อนผงแกงกะหรี่ลงไป ค่อย ๆ คนจนละลายจนหมด แล้วตั้งหม้อต้มต่อไปอีกประมาณ 15 – 30 นาที หรือจนกว่าจะได้ความหนืดเข้มข้นของน้ำแกงที่พอใจ
- ปิดท้ายด้วยการใส่เนยเค็มลงไปคนให้ละลาย จากนั้นปิดเตา ยกลงจากเตาแล้วเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ รับรองอร่อยฟินแน่นอน
แนะนำเคล็ดลับสูตรเด็ดความอร่อยของแกงกะหรี่ ทำตามง่าย ๆ ได้จานเด็ดแน่นอน ติดใจคนทั้งบ้าน
แม้ขั้นตอนในการทำแกงกะหรี่จะไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการจะทำให้อร่อยนั้น ต้องอาศัยเคล็ดลับและเทคนิคพอสมควร โดยเราได้ทำการรวบรวมมาให้ครบจบทุกขั้นตอนแล้ว รับรองว่าทำตามได้ง่าย ๆ เริ่มจากการเตรียมวัตถุดิบกันก่อน นำหอมหัวใหญ่ แครอท และมันฝรั่งที่จะใส่ลงไปเคี่ยวในน้ำแกงมาหั่นเป็นชิ้นใหญ่ให้มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 เซนติเมตร ส่วนเนื้อหมูก็หั่นให้มีขนาดพอ ๆ กับผัก ส่วนหอมหัวใหญ่ที่ใช้ผัดในขั้นตอนแรกให้นำมาสไลด์ให้บางมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และกระเทียมให้นำมาปอกเปลือกแล้วค่อยซอยบาง ๆ
ในขั้นตอนของการผัดหอมในกระทะ แนะนำให้ทำก่อนใส่ผงเครื่องแกงลงไป เพราะจะช่วยดึงรสสัมผัสและความหวานของซอสออกมาได้ดี แถมยังช่วยลดความฉุนและความเผ็ดลงไปด้วย อีกหนึ่งขั้นตอนที่ควรเพิ่มเข้าไปนั่นคือ การผัดมันฝรั่งและแครอท ก่อนที่จะนำลงไปต้มในหม้อ เป็นเคล็ดลับที่จะทำให้เนื้อของผักไม่ละลาย และยังคงรูปร่างรวมถึงรสสัมผัสที่ดีไว้ ที่สำคัญการนำแครอทไปผัดในน้ำมัน ตัวไขมันจะช่วยดึงวิตามินเอและเบต้าแคโรทีนออกมาให้ร่างกายดูดซับได้ง่ายขึ้นด้วย
เมื่อทำเสร็จพร้อมเสิร์ฟ ต้องทานคู่กับข้าวสายพันธุ์ญี่ปุ่นเท่านั้นจึงจะอร่อยถึงใจ ด้วยรสสัมผัสของข้าวญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ข้าวเนื้อเหนียวนุ่ม ติดกันเป็นก้อน ราดด้วยน้ำแกงเข้มข้นจะเข้ากันมากกว่าทานคู่กับเข้าสวยของไทย และแน่นอนว่าไม่ว่าจะเป็นเมนูใดก็ตามบนโลกนี้ ย่อมไม่มีสูตรตายตัว เช่นเดียวกับสูตรแกงกะหรี่ แนะนำให้ลองปรับการปรุงรสให้เป็นไปตามรสชาติที่ต้องการ ประยุกต์เปลี่ยนแปลงได้ ไม่มีผิดถูก เพียงเท่านี้ก็จะได้เมนูโปรดจานใหม่ที่เป็นรสมือถูกปาก ถูกใจ มากที่สุด
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace