ต้มจับฉ่าย หนึ่งในเมนูเพื่อสุขภาพสะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทย-จีนออกมาได้อย่างชัดเจน นิยมทำกันในช่วงเทศกาลสำคัญต่าง ๆ เช่น เทศกาลกินเจ เทศกาลตรุษจีน และเทศกาลอื่น ๆ อีกเพียบ แต่ด้วยรสชาติอร่อยกลมกล่อม น้ำซุปหอม ๆ เต็มไปด้วยผักที่มีประโยชน์ ต้มจนนุ่มละมุนลิ้น กินง่ายถูกใจสายเฮลตี้ รวมถึงคนที่ไม่ชอบกินผัก ก็สามารถกินได้ง่ายขึ้น ทำให้ เมนูเพื่อสุขภาพนี้มีขายทั่วไป ไม่จำกัดอยู่เพียงแต่ช่วงเทศกาลเหมือนในอดีต จะร้านอาหารจีนหรือร้านข้าวต้มยามดึก ก็พร้อมเสิร์ฟเมนูผักต้มเปื่อย ๆ ถึงโต๊ะ อร่อยง่าย แถมมีประโยชน์ด้วย บทความนี้ FoodSpace จะพาทุกคนไปทำความรู้จักถึงที่มาที่ไปของเมนูแสนอร่อย รวมถึงวิธีการทำง่าย ๆ พร้อมแล้วไปลุยกันเลย
ทำความรู้จักต้มจับฉ่าย ที่มาที่ไปของเมนูเพื่อสุขภาพยอดฮิต ที่ได้รับความนิยมอยู่เสมอ กินกับอะไรก็ดี
ต้มจับฉ่าย เป็นหนึ่งในเมนูเพื่อสุขภาพประเภทต้ม เรียกได้ว่าเป็นหม้อรวมของผักนานาชนิด ไม่จำเป็นต้องปรุงรสมากมายก็ได้รสชาติหวานจากน้ำซุปผักและเนื้อสัตว์ที่ต้มจนเปื่อยนุ่ม โดยเมนูดังกล่าวเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศจีนด้วยชื่อที่มีความหมายแปลตรงตัว คือ “จับ” แปลว่า “สิบ” ส่วน “ฉ่าย” นั่นคือ “ผัก” ความหมายก็ตรงตามคอนเซ็ปท์คือการต้มผักหลายหลายชนิดในหม้อ
แจกสูตรต้มจับฉ่าย เปลี่ยนผักธรรมดาให้กลายเป็นเมนูเพื่อสุขภาพจานเด็ด ซุปเข้มข้นกำลังดี
วัตถุดิบ
– หมูสามชั้น 500 กรัม
– กะหล่ำปลี 1 หัว
– หัวไชเท้า 2 หัว
– เห็ดหอม 5-6 ดอก
– ขึ้นฉ่าย 1 มัด
– คะน้า 5 ต้น
– กวางตุ้ง 5 ต้น
– กระเทียมจีนสับหยาบ 1 หัว
– คนอร์ซุปก้อน 1 ก้อน
– เกลือป่น 1 ช้อนชา
– ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนตวง
– น้ำมันหอย 2 ช้อนตวง
– ซอสปรุงรสฝาเขียว 2 ช้อนตวง
– น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนตวง
– ซีอิ๊วดำหวาน 1/2 ช้อนตวง
– น้ำมันพืช 3-4 ช้อนตวง
– น้ำเปล่า 2-3 ลิตร
ขั้นตอนและวิธีการทำ
– ขั้นตอนแรกเริ่มจากการนำผักกวางตุ้ง คะน้า และขึ้นฉ่ายมาหั่นเป็นท่อน ส่วนหัวไชเท้าให้หั่นเป็นแว่น เห็ดหอมให้ตัดขาทิ้งแล้วผ่าครึ่ง และกะหล่ำปลีให้หั่นเป็นชิ้น ๆ เตรียมล้างให้สะอาด
– นำหนูสามชั้นมาหั่นเป็นชิ้นที่มีความหนาพอดีคำ จากนั้นตั้งกระทะ รอจนน้ำมันร้อนจึงค่อยใส่หมูสามชั้นที่หั่นเตรียมไว้ลงไป ผัดให้มีสีเหลืองอ่อน ๆ จึงค่อยใส่กระเทียมตามลงไปผัด
– หลังจากกระเทียมมีกลิ่นหอม สีเหลืองสวย ให้ทยอยใส่ผักและเห็ดหอมที่เตรียมไว้ลงไป แล้วผัดจนเริ่มยุบตัว ก็สามารถปรุงรสด้วยเกลือป่น น้ำตาลกรวด ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว และซอสปรุงรสฝาเขียว จากนั้นผัดให้เข้ากันได้เลย
– ขั้นตอนต่อไปตักใส่หม้อต้มใบใหญ่ ตั้งบนเตาแล้วเปิดไปให้แรง จากนั้นให้ใส่น้ำลงไปให้ท่วม เติมซีอิ๊วดำหวานเล็กน้อยเพื่อสีสันสวยงาม ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ผักก็จะเปื่อยดีน่ารับประทาน