เริ่มเข้าสู่หน้าร้อนของเมืองไทยอีกครั้ง ช่วงที่อุณหภูมิกำลังสูงขึ้นก็คงจะนึกถึงอะไรไปไม่ได้นอกจากไอศกรีมเย็น ๆ ยิ่งเป็นสูตรไอศกรีมกะทิตามแบบฉบับเมนูดับร้อนสูตรเฉพาะของชาวไทย ยิ่งตอบโจทย์วันที่อากาศร้อนระอุได้ดี เพราะเมื่อร่างกายกำลังต้องการความเย็น ไอศกรีมก็มักจะเป็นตัวเลือกที่ช่วยเติมเต็มความสดชื่นอยู่เสมอ ซึ่งนอกจากไอศกรีมจะมีขายทั่วไป ก็ยังสามารถทำทานเองที่บ้านได้ง่าย ๆ เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์มากมาย แถมขั้นตอนการทำยังไม่ซับซ้อนวุ่นวายอีกด้วย แต่ก่อนที่จะเข้าครัวไปเตรียมเมนูประจำฤดูร้อนกันนั้น ตาม Foodspace ไปส่องประโยชน์ที่มากกว่าการผ่อนคลายความร้อนของเมนูนี้กันก่อน
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
พาส่องประโยชน์ของวัตถุดิบหลักสำหรับเมนูไอศกรีมกะทิ ของหวานแสนอร่อยกลมกล่อม ช่วยคลายร้อน
ไอศกรีมกะทิ เป็นเมนูคลายร้อนยอดนิยม ที่มีวัตถุดิบหลักมาจากส่วนประกอบของมะพร้าวอย่าง “กะทิ” ซึ่งคนไทยมักหยิบมาประกอบอาหารทั้งคาวและหวาน แต่ก็มีหลายคนที่พยายามที่จะหลีกเลี่ยงการทานกะทิ เพราะเชื่อว่าเป็นสาเหตุหลักของโรคอ้วนและไขมันที่สะสมในร่างกาย แต่ในความจริงแล้วหากเราเลือกทานในปริมาณที่เหมาะสม กะทิก็เป็นหนึ่งในอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายไม่น้อยเลยทีเดียว ยกตัวอย่างประโยชน์ ที่ได้จากกะทิเช่น
- เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วสามารถย่อยได้ง่าย ทำให้ร่างกายของเราสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว และหลังจากที่เผาผลาญเรียบร้อยก็จะถูกดึงไปใช้เป็นพลังงานในตับ
- อุดมไปด้วยกรดรอลิคที่มีส่วนช่วยในการต่อต้านเชือไวรัส และป้องกันเชื้อแบคทีเรีย เชื้อจุลินทรีย์ รวมถึงเชื้อรา
- มีคุณสมบัติช่วยต้านสารอนุมูลอิสระได้ดี ทั้งยังสามารถช่วยป้องกันความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย
- กะทิเต็มไปด้วยวิตามินหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี1, วิตามินบี2, วิตามินบี3, วิตามินบี6 และวิตามินซี ซึ่งให้ประโยชน์กับร่างกายแตกต่างกันออกไป
- ที่สำคัญในกะทินั้นยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมาย ทั้งแคลเซียม, แมกนีเซียม, เหล็ก, ฟอสฟอรัส, โพแทสเซียม, สังกะสี เป็นต้น
แชร์ 3 สูตรไอศกรีมกะทิสไตล์โฮมเมด ทำทานง่าย ๆ ได้ที่บ้าน เติมความสดชื่นได้ ทำขายก็ดีงาม
1. ไอศกรีมโบราณ รสกะทิ
ส่วนผสม
- กะทิกล่อง 500 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 100 กรัม
- เกลือ ½ ช้อนชา
- แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ
- กลิ่นวนิลลา 1 ช้อนชา
- ถั่วลิสงคั่ว ตามชอบ
- เครื่องเคียง เช่น ถั่วแดง, ลูกเดือย, ลูกชิด หรือข้าวโพด ตามชอบ
ขั้นตอนและวิธีในการทำ
- เริ่มต้นด้วยการนำแป้งข้าวโพดมาละลายผสมกับกะทิแค่บางส่วน จากนั้นใช้ตะกร้อมือหรือเครื่องตี ตีแป้งจนส่วนผสมกลายเป็นเนื้อเดียวแล้วพักไว้
- ขั้นตอนต่อไปให้ตั้งหม้อด้วยไฟกลาง จากนั้นใส่กะทิ เกลือ น้ำตาลทราย และกลิ่นวนิลลาลงในหม้อ แล้วเคี่ยวส่วนผสมทั้งหมดด้วยไฟกลางจนเริ่มจับตัวหนืด
- หลังจากนั้นให้ปรับมาใช้ไฟอ่อน แล้วใส่แป้งข้าวโพดที่เตรียมไว้ในขั้นตอนแรกลงไป คนจนกว่าส่วนผสมเริ่มเดือดเล็กน้อยจึงค่อยปิดไฟ ยกลงจากเตาแล้วพักให้เย็นตัว
- เทส่วนผสมที่ได้ในภาชนะที่มีฝาปิด จากนั้นนำเข้าตู้เย็นในช่องแช่แข็ง โดยใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง
- เมื่อครบเวลา หรือสังเกตช่วงที่ไอศกรีมเริ่มแข็งตัวก็สามารถตักมาเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง แล้วโรยด้วยถั่วลิสง ปิดท้ายด้วยการราดนมจืด เพียงเท่านี้ก็เติมเต็มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อนได้แล้ว
2. ไอศกรีมกะทิ จากหม้อใบเดียว
ส่วนผสม
- หัวกะทิ 500 กรัม
- แป้งข้าวโพด 25 กรัม
- น้ำตาลทราย 120 กรัม
- ผงแป้งหอม ½ ช้อนชา
- เกลือ ¼ ช้อนชา
ขั้นตอนและวิธีในการทำ
- เริ่มต้นขั้นตอนแรกด้วยการเทกะทิใส่ลงในหม้อ ตามด้วยแป้งข้าวโพด ผงแป้งหอม เกลือ และน้ำตาลทราย จากนั้นค่อย ๆ คนส่วนผสมให้ละลายเข้ากัน
- นำหม้อขึ้นตั้งไฟจากนั้นเคี่ยวด้วยไฟกลางจนส่วนผสมเริ่มเดือด ตักขึ้นมาพักให้เย็นแล้วค่อยเทใส่ภาชนะที่มีฝาปิด นำเข้าตู้เย็นช่องแช่แข็งประมาณ 3-4 ชั่วโมง
- สูตรไอศกรีมกะทิสูตรนี้ เมื่อครบเวลาให้นำออกจากตู้เย็น แล้วใช้ส้อมจิ้มให้ทั่วเนื้อไอศกรีม แล้วกวนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นค่อย ๆ เกลี่ยเนื้อไอศกรีมให้เป็นหน้าเรียบในลักษณะเดิม แล้วนำเข้าตู้เย็นอีกครั้ง ใช้เวลา 1 คืน
- นำไอศกรีมออกจากช่องแช่แข็ง เตรียมเสิร์ฟ ทานคู่กับเครื่องเคียงเช่น ผลไม้ที่ชอบ ถั่วลิสง แล้วราดด้วยนมข้นจืด
3. ไอศกรีมกะทิ สูตรเพื่อสุขภาพ
ส่วนผสม
- กะทิ 300 มิลลิลิตร
- นมจืด 1/3 ถ้วยตวง
- น้ำตาลอิริทริทอล 1/3 ถ้วยตวง
- เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
- กลิ่นวนิลลา 1 ช้อนชา
- เครื่องเคียงพวกธัญพืช ตามชอบ
ขั้นตอนและวิธีในการทำ
- เริ่มต้นด้วยการนำส่วนผสมทุกอย่างมาเทลงในชามผสม แล้วคนให้ละลายเข้ากันดี
- ขั้นตอนต่อไปให้นำใส่หม้อขึ้นตั้งบนเตาด้วยไฟกลาง เคี่ยวจนเดือด ปิดไฟแล้วยกลงมาพักไว้ให้ส่วนผสมเย็นลงก่อนเทใส่ภาชนะที่มีฝาปิด
- นำเข้าตู้เย็นโดยแช่ในช่องแช่แข็งไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง หรือจนกว่าเนื้อไอติมกะทิจะแข็งตัว หลังจากนั้นให้นำออกมาปั่นในเครื่องปั่นจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
- เทใส่ในภาชนะแล้วเกลี่ยให้เสมอกัน จากนั้นนำไปแช่ทิ้งไว้อีก 1 คืน เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟให้ได้รับความฉ่ำเย็นกันได้ง่าย ๆ ยิ่งทานคู่กับธัญพืชจำพวกแป๊ะก๊วย ถั่วอัลมอนด์ หรือผลไม้ที่ชื่นชอบ รับรองกว่าอร่อยถูกใจ