สวัสดีค่ะ กลับมาเจอ FoodSpace อีกแล้วจ้า วันนี้เรามีเมนูขนมหวานแสนอร่อยมาฝากทุกคนกันจ้ากับ “เมนูขนมครกไส้ทะลัก” เมนูที่เรานำมาเสนอในวันนี้เป็นเมนูขนมหวานที่มีกลิ่นหอม รสชาติหวานมัน รับรองอร่อยลงตัวแบบสุด ๆ ค่ะ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาตามไปดู เมนูขนมครกไส้ทะลัก กันได้เลยค่ะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ประวัติความเป็นมาของขนมครก
ขนมครก เป็นขนมไทยโบราณชนิดหนึ่งที่ทำมาจากแป้ง กะทิและน้ำตาล นำมาผสมกันแล้วเทลงบนเตาหลุม จากนั้นจะทำการแคะออกจากเตาหลุม ก็จะได้ขนมครกที่มีลักษณะเป็นแผ่นวงกลม เมนูขนมหวานนี้มีหลักฐานพบว่าเป็นเมนูขนมหวานที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยในอดีตจะใช้ข้าวเจ้าแช่น้ำนำไปโม่แล้วรวมกับหางกะทิ มะพร้าวทึนทึกขูดฝอยและข้าวสวย จากนั้นใส่เกลือลงในขนมครกเล็กน้อย ซึ่ง ส่วนนี้จะใช้เป็นตัวขนม ในส่วนของหน้าขนมจะใช่หัวกะทิ แต่ต่อมาได้ถูกดัดแปลงโดยใส่หน้าขนมเข้าไปด้วยเช่น ได้แก่ หน้าต้นหอม หน้าเผือก หน้าข้าวโพด เป็นต้น
ตำนานบอกเอาไว้ว่า ขนมครก คือ ขนมคนรักกัน
มาจากเรื่องเล่าที่ว่า นานมาแล้วมีคู่รักชายหญิงคู่หนึ่งได้ตกหลุมรักกัน โดยฝ่ายชายมีชื่อว่า “กะทิ” และฝ่ายหญิงชื่อว่า “แป้ง” ด้วยฐานะที่ต่างกันของทั้งคู่ จึงทำให้ทั้งกะทิถูกกีดกันจากผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง และทำให้พ่อฝ่ายหญิงจับฝ่ายหญิงแต่งงานกับคนที่ตนเองเลือกให้ นอกจากนี้พ่อของแป้งยังหาทางกำจัดปัญหานี้ด้วยวิธีการที่โหดร้าย เพื่อหวังว่าจะจบปัญหาไม่ให้ฝ่ายชายคบกับลูกสาวของตนอย่างถาวร และได้มีการวางแผนฆ่าฝังดิน โดยการขุดหลุมพรางเอาไว้ เพราะเพื่อว่าฝ่ายชายจะต้องขัดขวาง และทำลายงานแต่งงานของลูกสาวตนแน่ ๆ
ฝ่ายหญิงบังเอิญผ่านมาได้ยินแผนการจากพ่อของตนพอดี จึงตั้งใจจะออกไปเตือนคนรักของตน และเมื่อฝ่ายชายรู้ข่าวจึงตั้งใจจะพาฝ่ายหญิงหนี แต่ในช่วงเวลาที่หนีเป็นเวลากลางคืน จึงทำให้ฝ่ายหญิงตกหลุมพรางที่พ่อขุดเอาไว้ เมื่อฝ่ายชายเห็นจึงกระโจนลงไปหวังที่จะช่วย แต่เนื่องจากพ่อฝ่ายหญิงที่สั่งให้คนของตนดักซุ่มอยู่ได้สั่งเอาไว้ว่า ถ้าเห็นฝ่ายชายตกลงไป ให้นำดินกลบทันที จึงทำให้ลืมดูไปว่ามีลูกสาวของเจ้านายตัวเองอยู่ ส่งผลให้ทั้งแป้งและกะทิถึงแก่ความตายทั้งสองคน พอรุ่งเช้าพ่อกำนันถึงก็ได้ให้คนงานขุดหลุมดูพบว่าลูกสาวของตนได้ตายในอ้อมกอดของชายคนรัก พ่อกำนัลจึงสร้างเจดีย์ขึ้นครอบบนหลุมพรางนั้น ต่อมามีคนนับถือความรักของทั้งสองจึงทำขนมที่มีส่วนผสมของกะทิและแป้งหยอดลงในเบ้า เมื่อสุกก็ใช้ช้อนแคะออกแล้วนำมาประกบคู่กัน จากนั้นนำไปไหว้เจดีย์ดังกล่าว จึงได้ตั้งชื่อว่า ขนมคนรัก ภายหลังมีการเรียกให้สั้นลงจึงมีชื่อว่า ขนมครก
เมนูขนมที่เราได้นำมาฝากทุกคนในวันนี้ หน้าตาน่ากินมากเลยค่ะ พูดแล้วก็รู้สึกหิวเลยค่ะ หาขนมครกกินกันอิ่มท้องแล้ว เราอยากชวนให้ทุกคนแวะมาเสี่ยงโชค รับทรัพย์รับเงินที่ Lottosod96 ที่นี่มีหลายอย่างให้ได้เลือกเล่นกัน ลองแวะเข้าไปเยียมชม แล้วคุณจะติดใจ รับรับประกัน สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อนเจอกันใหม่ในเมนูหน้า สวัสดีค่ะ