ขนมปังบริยอช เป็นเมนูเบเกอรีประเภทหนึ่งของ French Toast ที่สายขนมปังหลายคนชื่นชอบ ด้วยเนื้อขนมปังที่มีสีเหลืองทอง หนานุ่ม ฉ่ำไปด้วยเนย รสชาติเข้มข้น มีความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ไม่ว่าจะทานคู่กับอะไรก็อร่อยลงตัวไปหมด จึงไม่น่าแปลกใจที่จะกลายเป็นเมนูโปรดของชาวแก๊งค์ขนมหวาน เป็นความพิเศษที่ทำให้หลงรัก ไม่ควรพลาด ต้องลิ้มลองความหอมละมุนนี้สักครั้ง วันนี้ FoodSpace จะไปทุกคนไปทำความรู้จักขนมปัง French Toast ยอดฮิตชนิดนี้กันให้มากขึ้น และเรามาพร้อมกับวิธีการทำง่าย ๆ ทำเองได้ที่บ้าน จะมีอะไรน่าสนใจรอเราอยู่บ้างตามไปดูพร้อมกันเลย
พาไปส่องต้นกำเนิดความอร่อยของ ขนมปังบริยอช ตำนานขนมที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทั่วโลก
ขนมปังบริยอช เป็นขนมปังประเภท French Toast ที่ยังไม่มีการระบุแหล่งที่มาอย่างแน่ชัด บ้างก็ว่าเกิดขึ้นครั้งแรกจากสูตรขนมปังของชาวนอร์มันในแคว้นนอร์มังดีประเทศฝรั่งเศส แต่บางกรณีก็ว่ากันว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมามีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝั่งยุโรปโซนตะวันออกอย่างประเทศโรมาเนียอีกด้วย เนื่องจากตัวขนมปังมีลักษณะเนื้อสัมผัส รวมถึงรสชาติที่คล้ายคลึงกับขนมปังบริยอช และก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
โดยในอดีตได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มักนำไปใช้ในงานพิธีสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นพิธีแต่งงาน หรือพิธีรับศีลจุ่ม ในระยะเริ่มต้นขนมปังชนิดนี้มีส่วนผสมหลักเพียงแค่นม เนย และน้ำตาลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่เมื่อได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย จึงได้มีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงไปตามเทสของแต่ละท้องถิ่น นั่นเอง
ชวนไปเตรียมวัตถุดิบของ ขนมปังบริยอช พร้อมขั้นตอนและวิธีการทำ สัมผัสความหอมอร่อยได้ง่าย ๆ
ส่วนผสม
– แป้งขนมปัง 245 กรัม
– เกลือ 1/2 ช้อนชา
– น้ำตาลทราย 30 กรัม
– ไข่ไก่ (เบอร์1) 3 ฟอง
– ยีสต์หวาน 10 กรัม
– เนยสดเค็ม 95 กรัม
ขั้นตอนและวิธีการทำขนมปังบริยอช
– ใส่แป้งขนมปัง เกลือ และน้ำตาลทรายลงไปในชามผสม นวดส่วนผสมด้วยมือ
– ตามด้วยไข่ไก่เย็นที่ตีให้เข้ากันเรียบร้อย โดยค่อย ๆ เทจนกว่าไข่ไก่จะหมด แล้วนวดต่อไปเรื่อย ๆให้ส่วนผสมเข้ากัน
– จากนั้นใส่เนยสดเค็มที่ยังเย็นตัวอยู่ลงไป แล้วทำการนวดส่วนผสมต่อจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน สังเกตได้ง่าย ๆ หากแป้งได้ที่แล้วจะสามารถขึงได้เป็นฟิล์ม เสร็จแล้วพักไว้ในตู้เย็นเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
– เมื่อนำแป้งที่พักไว้ออกจากตู้เย็นแล้ว นำมาฟาดขึ้นรูป คลึงเป็นลูกกลม นำไปใส่พิมพ์ปอนด์ พักไว้ 1 ชั่วโมงในตู้เย็นเช่นเคย
– แล้วนำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ไฟบน-ล่าง ประมาณ 20-25 นาที เพียงเท่านี้ก็รอรับรสความอร่อยได้เลย