เชื่อว่าใครหลายคนมักมีปัญหาเกี่ยวกับการขับถ่าย ที่เกิดจากการทำงานที่ไม่ได้ปกติของระบบขับถ่าย ซึ่งอาจมีสาเหตุต่อเนื่องมาจากอาหารที่กิน การพักผ่อน การออกกำลัง หรืออื่น ๆ วุ้นตำลึง เป็นอีกหนึ่งไอเทมขนมเพื่อสุขภาพ ที่เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเด็กที่ทานผักค่อนข้างยาก หรือจะเป็นผู้ใหญ่ที่กำลังประสบปัญหาดังกล่าว แต่ก่อนที่จะไปส่องวัตถุดิบและขั้นตอนในการทำ Foodspace จะพาทุกคนไปเรียนรู้และทำความรู้จักกับผักชนิดนี้โดยลงลึกไปที่คุณประโยชน์โดยเฉพาะ
แนะนำสรรหาคุณภาพของตำลึงผักริมรั้ว ก่อนหยิบมาทำวุ้นตำลึงอร่อยง่าย ๆ ได้ประโยชน์เต็มคำ
เรามักจะเก็บผักข้างรั้วมาทำเป็นเมนูตำลึงในรูปแบบกับข้าวแสนอร่อยที่ทานกันอยู่เป็นประจำ แต่หากจะพูดถึงวุ้นตำลึง เชื่อว่านี่จะเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ของใครหลายคน แต่ก็นับเป็นวิธีที่จะทำให้เราสามารถทานเมนูที่มีส่วนช่วยในการขับถ่ายได้ง่ายขึ้น ด้วยประโยชน์ที่หลากหลายของตำลึง จึงถูกหยิบขึ้นมาปรับนิดแต่งหน่อย ให้กลายมาเป็นขนมหวานที่ทานได้ทุกเวลา แถมยังให้คุณค่ากับร่างกายอีกด้วย ซึ่งประโยชน์ของตำลึง มีดังต่อไปนี้
– อุดมไปด้วยวิตามินเอ ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงสายตา ทั้งยังมีเบต้าแคโรทีนที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ โดยสามารถเปลี่ยนมาเป็นวิตามินเอได้อีกด้วย นี่จึงเป็นแหล่งรวมวิตามินเออย่างแท้จริง
– เมื่ออัดแน่นไปด้วยวิตามินเอก็จะมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้เช่นกัน โดยสามารถป้องกันอาการเจ็บไข้ได้ป่วยได้ดีมาก ๆ
– ตำลึงมีความโดดเด่นในเรื่องของการรักษาโรคเบาหวาน บำรุงกระดูก และที่สำคัญช่วยให้ระบบขับถ่ายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แชร์สูตรเมนูเด็ดวุ้นตำลึงเนื้อนุ่มเด้ง ทำง่าย ๆ ได้ที่บ้าน ขนมแสนอร่อยที่ช่วยแก้ปัญหาท้องผูกได้ดีเยี่ยม
ก่อนจะพาทุกคนไปเข้าครัวตะลุยทำวุ้นตำลึง Foodspace ขออนุญาตแนะนำสรรพคุณของผักริมรั้วที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ไปแทบทุกส่วนของต้นกันเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละส่วนก็อัดแน่นไปด้วยสรรพคุณทางยา โดยแบ่งแยกได้ดังนี้
ส่วนราก : ใช้ต้มกับน้ำ แล้วนำมาดื่มเพื่อลดอาการไข้ ลดอาการวิงเวียนศีรษะ และลดอาการอาเจียนได้
ส่วนลำต้น : นิยมนำมาใช้ในการกำจัดกลิ่นตัว นอกจากนี้น้ำต้มจากลำต้นของตำลึงสามารถนำมารักษาโรคเบาหวานได้อีกด้วย
ส่วนเถา : ส่วนนี้จะมีรสเย็น มีสรรพคุณหลากหลาย มีส่วนช่วยรักษาโรคตาเจ็บ แก้ปัญหาตาฟาง ตาช้ำ โดยให้นำไปโขลกให้แหลกแล้วใช้ประคบที่ตาได้เลย
ส่วนใบ : เป็นอีกหนึ่งส่วนของตำลึงที่มีรสเย็น มีสรรพคุณสามารถดับพิษร้อน ถอนพิษ แก้อาการแสบคัน บรรเทาอาการของงูสวัดหรือเริม วิธีการก็ง่าย ๆ เพียงแค่นำมาคั้นเอาแต่น้ำมาทาบริเวณที่เกิดปัญหา
ส่วนดอก : เมื่อคั้นเอาแต่น้ำมาแล้วสามารถใช้บรรเทาอาการคันได้
ส่วนผล : ส่วนของผลตำลึงที่เป็นสีแดงสด ให้นำมาคั้นน้ำจากผลสด แล้วดื่มวันละ 2 ครั้ง หากทำแบบนี้จะสามารถช่วยรักษาโรคผิวหนัง และรักษาอาการอักเสบของหลอดลมได้ด้วย
ส่วนเมล็ด : ในส่วนเมล็ดของตำลึงสามารถนำมาตำกับน้ำมะพร้าวเพื่อใช้แก้หิดได้
นอกจากนี้ ยังสามารถนำมาดัดแปลงเป็นเมนูแก้ท้องผูก หรือที่เทรนด์ปัจจุบันเรียกกันว่าการ “ดีท็อกซ์” ได้เช่นกัน แม้จะเป็นมือใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์เข้าครัวก็ไม่ต้องกังวลไปว่าจะทำไม่ได้ เพราะเมนูนี้เป็นเมนูทำง่าย แถมยังตอบโจทย์คนที่ไม่ชอบทานผัก ด้วยรสชาติที่ไม่เหมือนการกินผัก แต่เป็นเมนูขนมแสนอร่อย แถมยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย ใครที่กำลังประสบปัญหาท้องผูก ถ่ายยาก หรือถ่ายไม่ออก ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ นี่จะเป็นทางออกที่เหมาะสมกับทุกคนอย่างแน่นอน ตามเราไปดูส่วนผสมและวิธีการทำพร้อมกันได้เลย
ส่วนผสม
- ตำลึง 1 กำมือ
- น้ำเปล่า 300 มิลลิลิตร
- ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ
- กลิ่นวานิลลา (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) 1 ช้อนชา
- น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ
- นมสดรสจืด หรือนมสดรสหวาน
ขั้นตอนและวิธีในการทำ
- ขั้นตอนแรกให้เริ่มจากการนำตำลึงไปล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าก่อน เพื่อกำจัดพวกฝุ่นและดินออกไปให้หมดจด เสร็จเรียบร้อยให้นำไปปั่นกับน้ำให้ละเอียด
- ขั้นตอนต่อไปให้เทส่วนผสมที่ปั่นลงในหม้อ จากนั้นใส่ผงวุ่นลงไปคนให้ละลายเข้ากันดี แล้วจึงค่อยนำขึ้นตั้งไฟ ต้มให้พอเดือด
- ระหว่างที่ต้มอยู่นั้น แนะนำให้หมั่นคนไปเรื่อย ๆ จนสุก และไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว สังเกตหากส่วนผสมในหม้อเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มให้ปิดไฟ แล้วยกลงได้เลย
- หากอยากให้มีกลิ่นหอมมากขึ้นสามารถเติมกลิ่นวนิลาลงไปแต่งกลิ่นได้ จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำผึ้งตามชอบ
- ขั้นตอนต่อไปให้เติมนมสดรสจืดลงไปในหม้อ สำหรับใครที่ชอบรสชาติติดหวานหน่อยก็สามารถใช้นมสดรสหวานแทนได้ จากนั้นคนส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
- ปิดท้ายด้วยการนำส่วนผสมที่เตรียมไว้ลงในพิมพ์ พักไว้ให้เย็น โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
- เมื่อครบเวลาแล้วก็สามารถแกะวุ้นตำลึงออกจากพิมพ์ได้เลย สามารถนำไปแช่ตู้เย็นแล้วแบ่งทานวันละ 1-2 ชิ้นได้ หรือจะทานตามปริมาณที่ช่วยให้ถ่ายได้คล่องขึ้น จะเป็นระหว่างมื้ออาหารหรือก่อนนอนก็ได้