บัวลอยไข่หวาน เป็นหนึ่งในเมนูขนมไทยยอดฮิตที่ได้รับความนิยมและอยู่คู่สังคมไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยเนื้อแป้งที่เหนียว หนึบหนับ เสิร์ฟในน้ำกะทิรสหวานมันกำลังดี เสริมทัพด้วยไข่หวานฉ่ำ ๆ ใครได้ลิ้มลองก็เป็นอันต้องติดใจ นั่นเป็นเหตุผลที่เมนูนี้กลายเป็นเมนูขนมของไทยที่ถูกปากคนทุกเพศ ทุกวัย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
ยิ่งยุคสมัยเปลี่ยนไปก็มีการรังสรรค์เมนูใหม่ ๆ ออกมาให้มีหน้าตาชวนรับประทานมากขึ้น เช่นเดียวกับเมนูนี้ที่มีการปั้นแป้งหลากหลายสีสันมากขึ้น ทั้งรูปร่างก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงทรงกลมเท่านั้น แต่ยังมีทั้งรูปการ์ตูน ดอกไม้ ผักผลไม้ และอื่น ๆ อีกมากมาย การได้ลองทำทานด้วยตัวเองจึงเป็นอีกหนึ่งความท้าทาย ที่หลายคนอยากจะทดสอบสักครั้ง วันนี้ Foodspace จะพาทุกคนไปดูสูตรการทำขนมไทยชนิดนี้ ขั้นตอนจะยากง่ายอย่างไร ไปติดตามกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
แชร์สูตรขนมไทยแสนอร่อย ชวนเข้าครัวทำบัวลอยไข่หวาน แป้งหนุบหนับ น้ำกะทิหวานมัน ต้องลอง!
เมื่อพูดถึงบัวลอยน้ำกะทิก็ต้องมาคู่กับไข่หวานถึงจะลงตัวมากถึงมากที่สุด วันนี้เราจึงมาชวนทุกคนเข้าครัวไปรังสรรค์เมนูขนมของไทยสุดฮอตไปพร้อมกัน แต่ขอบอกก่อนเลยว่าสูตรนี้เป็นสูตรเบสิกพื้นฐานที่สามารถนำไปดัดแปลงได้ตามความชื่นชอบ แต่รับรองเลยว่าเป็นสูตรที่ทำตามง่าย ๆ ได้ที่บ้าน แต่กลับได้รสชาติอร่อยกลมกล่อมเหมือนไปซื้อที่ร้านเลยก็ว่าได้ พร้อมแล้วก็ตามเราไปส่องส่วนผสมและขั้นตอนการทำแป้งหนึบหนับกับน้ำกะทิหวานมัน กลิ่นหอมละมุนพร้อมกันได้เลย
ส่วนผสมของบัวลอยไข่หวาน
- แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
- น้ำ ¼ ถ้วย
- เผือกนึ่งสุก
- ฟักทองนึ่งสุก
- น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น
- น้ำกะทิ 1 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- ไข่ไก่
ขั้นตอนและวิธีในการทำบัวลอยไข่หวาน
- ขั้นตอนแรกให้เริ่มจากการแบ่งแป้งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน โดยส่วนแรกจะนวดผสมแป้งและน้ำเข้ากับเผือกนึ่งสุก ส่วนต่อไปให้นวดผสมแป้งและน้ำเช่นเดิม แต่เปลี่ยนวัตถุดิบเป็นฟักทองนึ่งสุก ปิดท้ายด้วยสีจากธรรมชาติอีกสีหนึ่งจากการนวดแป้งกับน้ำใบเตย
- เมื่อทำการนวดแป้งแต่ละส่วนเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ให้ปั้นแป้งแต่ละสีเป็นก้อนกลม ๆ ขนาดเล็ก จากนั้นก็คลุกเข้ากับแป้งข้าวเหนียวบาง ๆ แล้วพักไว้
- ตั้งหม้อบนเตาแล้วใส่กะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาลทรายและเกลือป่นคนจนส่วนผสมละลายเข้ากันดี รอจนส่วนผสมน้ำกะทิพอเดือดจากนั้นให้รีบปิดไฟแล้วตักใส่ถ้วยเตรียมไว้
- ขั้นตอนต่อไปตั้งหม้อใบใหม่บนเตาแล้วต้มน้ำจนเดือด หลังจากนั้นให้ค่อย ๆ นำแป้ง บัวลอย มาต้มทีละสี รอจนกว่าตัวแป้งจะลอยขึ้นมา แล้วค่อยตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำ ใส่ลงในถ้วยน้ำกะทิที่เตรียมไว้ในขั้นตอนก่อนหน้านี้
- ตอกไข้ใส่ถ้วยแล้วค่อย ๆ เทลงในหม้อน้ำกะทิที่นำขึ้นไปตั้งไฟอีกครั้ง เลือกระดับความสุขของไข่ได้ตามชอบ เมื่อพอใจแล้วจึงค่อยตักขึ้นออนท็อปลงในถ้วยขนมของเรา เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟความหวาน มัน อร่อย
ชี้ให้ชัด ส่องประโยชน์ของวัตถุดิบให้สีธรรมชาติในบัวลอยไข่หวาน สีสวยงามน่าทาน แถมได้ประโยชน์
หลายคนมีความกังวลว่าการทานขนมหวานนั้นจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ แถมยังเป็นตัวการทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกด้วย แต่ในความจริงแล้ว การทานอาหารทุกประเภทย่อมส่งผลดีและผลเสียด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่จะแสดงผลกระทบให้ด้านบวกหรือลบมากกว่ากันก็ขึ้นอยู่กับปริมาณการทานที่เหมาะสมด้วยนั่นเอง เช่นเดียวกับ บัวลอยไข่หวาน หากรู้จักควบคุมปริมาณที่ทานเข้าไปก็จะได้รับประโยชน์สูงสุดได้ไม่ยาก แน่นอนว่าสูตรที่เรานำมาฝากในวันนี้ เราเลือกหยิบเอาสีจากธรรมชาติมาใช้แทนการใช้สีสังเคราะห์ นั่นหมายความว่า คุณจะได้รับคุณค่าทางโภชนาการจากส่วนผสมสีธรรมชาติไปด้วย โดยวัตถุดิบแต่ละชนิดก็ให้ประโยชน์แตกต่างกันออกไปดังนี้
เผือก
เผือก มักถูกหยิบขึ้นมาเป็นส่วนประกอบในเมนูอาหารไทยทั้งคาวและหวาน ทั้งยังรับบทเป็นอาหารบำรุงสุขภาพและให้พลังงานไปพร้อมกัน เพราะนอกจากจะอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตและมีแคลอรีสูง ก็ยังเต็มไปด้วยประโยชน์และสรรพคุณอีกเพียบ มีทั้งโปรตีน, โพแทสเซียม, ฟอสฟอรัส, วิตามินบี 1, วิตามินซี, ธาตุเหล็ก และฟลูออไรด์สูง จึงมีส่วนช่วยบำรุงกระดูกและฟัน รวมถึงไต ลำไส้ และยังแก้อาการท้องเสียได้ด้วย
ฟักทอง
ในฟักทองมีวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงและรักษาสายตา ทั้งยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี รวมถึงแป้ง อีกหนึ่งสิ่งที่โดดเด่นเลยก็คือสารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในเนื้อสีเหลืองอย่าง “เบต้าแคโรทีน” ซึ่งมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูอ่อนวัย ชะลอรอยเหี่ยวย่น ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับร่างกาย
ใบเตย
ใบเตยเป็นส่วนประกอบของอาหารที่นิยมนำมาสกัดใช้ทั้งสีและกลิ่นหอม แต่หลายคนคงไม่ทราบมาก่อนว่าใบเตยมีประโยชน์มากกว่าที่คิด แถมยังบำรุงร่างกายในหลากหลายด้าน ทั้งช่วยปรับสมดุลในร่างกาย บำรุงหัวใจ ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย หากดื่มเป็นน้ำเย็น ๆ ก็ช่วยแก้กระหายคลายความร้อนได้ดีไม่น้อย