ข้าวไรซ์เบอร์รี่ อาหารเพื่อสุขภาพมักถูกหยิบขึ้นมาเป็นส่วนประกอบหลักของอาหารคลีน เหมาะกับสายเฮลตี้ที่กำลังมองหาอาหารทางเลือกเพื่อบำรุงสุขภาพ ทั้งยังสามารถช่วยในการควบคุมและลดน้ำหนักได้ดี ทำให้ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์จากข้าวไรซ์เบอร์รี่ผลิตออกมามากมาย แถมยังเจออยู่ในสูตรอาหารไทยหลาย ๆ เมนูอีกด้วย วันนี้เราจึงรวบรวมเอาสูตรอาหารง่าย ๆ ที่ใช้ข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นส่วนประกอบมาฝากกัน เพราะนอกจากจะนำไปทานร้อน ๆ คู่กับกับข้าวแล้ว ยังสามารถนำมาทำเป็นเมนูอาหารอื่น ๆ ได้อีกหลายเมนู แต่ก่อนจะไปจดสูตรความอร่อย ตามเราไปดูประโยชน์ของขาวชนิดนี้กันก่อน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
แนะนำประโยชน์ของข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวสายพันธุ์ใหม่ที่ได้รับความนิยมมากในหมู่คนรักสุขภาพ ต้องลอง!
ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารสูง มีวิตามินอีสูง มีไฟเบอร์สูง ทำให้อิ่มนานขึ้น ลดการกินจุบจิบได้ เหมาะกับการควบคุมน้ำหนัก ช่วยให้ขับถ่ายดี ดีท็อกซ์ของเสีย ช่วยชะลอความแก่ บำรุงร่างกายให้แข็งแรง ไม่ป่วยบ่อย ช่วยบำรุงให้หัวใจแข็งแรง บำรุงเม็ดเลือด และป้องกันโลหิตจาง แถมยังลดภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย
แชร์ 3 สูตรอาหารจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ เมนูเพื่อสุขภาพที่ทำตามได้ง่าย ๆ
1.โจ๊กข้าวไรซ์เบอร์รี่
ส่วนผสมหมูเด้ง
ซีอิ๊วขาว, ซอสถั่วเหลือง, แป้งข้าวโพด, น้ำเย็น, เนื้อหมูบด, เนื้อกุ้ง หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
ส่วนผสมโจ๊ก
ข้าวไรซ์เบอร์รี่, น้ำเปล่า, น้ำสต๊อกไก่, หมูเด้ง, ไข่ไก่
วิธีการทำ
เริ่มต้นจากการหมักหมูเด้งกันก่อน โดยให้ใส่น้ำเย็นลงไปในชามผสมเล็กน้อย ตามด้วยแป้งข้าวโพด คนผสมให้เข้ากันก่อนจะใส่เนื้อหมูสับ ซีอิ๊วขาวและซอสถั่วเหลือง เติมเนื้อกุ้งและพริกไทยอ่อนลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นเป็นเวลาประมาณ 30-45 นาที เมื่อครบเวลาแล้วให้นำออกมาปั้นเป็นก้อนต้มในน้ำเดือด รอให้หมูสุกลอยขึ้นมาก็ตักขึ้นมาพักไว้
ขั้นตอนต่อไปเป็นในส่วนของการเตรียมส่วนผสมทำโจ๊ก ให้เริ่มจากการต้มข้าวไรซ์เบอร์รี่กับน้ำเปล่า สังเกตเมื่อข้าวเริ่มสุกให้เร่งไฟแรงแล้วเติมน้ำสต๊อกไก่ลงไปต้ม โดยแบ่งเติมเป็นระยะ ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวไหม้ ต้มต่อไปจนข้าวเริ่มเปื่อยเป็นโจ๊ก จากนั้นก็ใส่เนื้อหมูเด้งที่เตรียมไว้ลงไป ตอกไข่และตักใส่ถ้วยก็พร้อมเสิร์ฟความอร่อยถึงโต๊ะ รับรองถูกปาก ถูกใจแน่นอน
2.ข้าวไรซ์เบอร์รี่ผัด
ส่วนผสม
ปลานิล หั่นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 100 กรัม, เกลือป่น, พริกไทยป่น, แป้งทอดกรอบสำเร็จรูป, น้ำมันพืช สำหรับทอด, กระเทียมสับ 1 ช้อนชา, น้ำมันมะกอก 1 + 1/2 ช้อนชา, แคร์รอต หั่นเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ, บรอกโคลี หั่นเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ, ฟักทอง หั่นเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลทราย 1/4 ช้อนชา, ซอสเห็ดหอม 2 ช้อนชา, ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนชา, เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด 6-7 เม็ด, ข้าวไรซ์เบอร์รี่หุงสุก 3/4 ถ้วยตวง, เมล็ดทานตะวันอบกรอบ 1 ช้อนชา, น้ำปลาผสมน้ำมะนาวและพริกขี้หนู
วิธีการทำ
เริ่มต้นขั้นตอนแรกด้วยการเตรียมทอดเนื้อปลา โดยให้โรยเกลือป่นและพริกไทยป่นบนเนื้อปลานิลก่อน จากนั้นนำไปคลุกกับแป้งทอดกรอบให้ทั่วชิ้น ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไป ใช้ไฟกลาง เมื่อน้ำมันเริ่มเดือดให้ใส่เนื้อปลาลงไปทอดจนสุกเหลือง ตักขึ้นมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
ขั้นตอนต่อไปให้เจียวกระเทียมกับน้ำมันมะกอกจนส่งกลิ่นหอมและมีสีเหลืองสวย ตามด้วยแครอท บรอกโคลี ฟักทอง และข้าวไรซ์เบอร์รี ผัดให้เข้ากันดี จากนั้นปรุงรสด้วยซอสเห็ดหอม ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย เกลือป่น และพริกไทยป่น ผัดให้เข้ากันอีกครั้งแล้วจึงใส่ปลาทอดลงไปตะล่อมเบา ๆ ให้เข้ากัน ก่อนเสิร์ฟตักใส่จานแล้วโรยหน้าด้วยเมล็ดมะม่วงหิมพานต์และเมล็ดทานตะวัน
3.ข้าวไรซ์เบอร์รี่ต้ม
ส่วนผสม
น้ำซุปไก่ 1 + 1/2 ถ้วยตวง, ข้าวไรซ์เบอร์รี่หุงสุก 1 ถ้วยตวง, ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนชา, หน่อไม้ฝรั่ง หั่นเฉียง 2 ช้อนโต๊ะ, แคร์รอต หั่นเต๋า 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ, กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ, กุ้งสด (ปอกเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำออก) 5 ตัว, ซอสเห็ดหอม 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ, พริกไทยดำบดหยาบ 1/2 ช้อนชา, ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ, ผักชี
วิธีการทำ
เริ่มด้วยการตั้งหม้อต้มน้ำซุปไก่พอให้เดือด จากนั้นใส่ข้าวไรซ์เบอร์รี่ลงไปต้มโดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา ตามด้วยหน่อไม้ฝรั่งและแคร์รอตลง ต้มต่อไปจนผักในหม้อสุกดี ยกลงจากเตามาพักไว้ ขั้นตอนต่อไปให้ใส่น้ำมันพืชลงไปในกระทะ ใช้ไฟกลางรอให้น้ำมันพอร้อนแล้วจึงนำกระเทียมสับลงไปผัดให้เหลืองหอม ตามด้วยกุ้งสด นำลงไปผัดให้พอสุก ตามด้วยซอสเห็ดหอม ซีอิ๊วขาวที่เหลือ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า และพริกไทยดำ ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน ตักข้าวต้มใส่ถ้วย ราดกุ้งผัดกระเทียม โรยหน้าด้วยต้มหอมและผักชีปิดท้าย เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟ
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace