ใครที่กำลังเบื่อเมนูข้าว ก๋วยเตี๋ยว หรืออาหารตามสั่งแบบเดิม ๆ ลองเปลี่ยนใจมากิน สุกี้ ก็ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องได้เช่นกัน นอกจากจะเป็นเมนูอาหารจานเดียวที่ทำได้ง่ายยังเป็นเมนูเพื่อสุขภาพที่ได้รับความนิยมมากในหมู่คนรักสุขภาพ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ทั้งยังเป็นทางเลือกสำหรับใครที่อยากเพิ่มรสชาติให้กับเมนูคลีนที่ทานกันอยู่เป็นประจำ ในบทความนี้เราจึงได้รวบรวมสูตรเมนูสุกี้ทั้งแบบแห้งและแบบน้ำมาฝากกัน รับรองว่าสามารถทำตามได้ง่าย อร่อย แถมได้ประโยชน์มากมายด้วย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
พาไปทำความรู้จักกับที่มาของสุกี้ เมนูอาหารยอดฮิตในหลายประเทศ แตกต่างกันอย่างไร วันนี้มีคำตอบ
สุกี้ ชื่อที่หลายคนเรียกเมนู “สุกียากี้” แบบย่อ ๆ แต่เป็นที่เข้าใจกันดี เมนูทำง่ายที่มีรสชาติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ปรุงรสด้วยเนื้อสัตว์ ไข่ วุ้นเส้น ผัก และน้ำจิ้มรสเด็ด นิยมทานกันมากในหมู่ชาวเอเชีย โดยแต่ละประเทศได้ปรับปรุงสูตรให้แตกต่างกันออกไป เพื่อให้มีรสชาติที่ถูกปากและถูกใจคนพื้นถิ่น ไม่ว่าจะเป็น
- เมนูสไตล์จีนที่เรียกกันว่า “หั่วกัว” ซึ่งมีความหมายว่าหม้อไฟ โดยจะมีการแบ่งแยกย่อยกันไปตามภูมิภาคด้วย สุกี้ไหหลำ มาจากเมืองที่เราได้ยินกันจนคุ้นหู ส่วนใหญ่จะใช้เนื้อวัวในการทำ นำไปหมักกับเต้าเจี้ยว เต้าหู้ยี้และผงพะโล้ ส่วนน้ำจิ้มจะเป็นเต้าเจี้ยวที่ผสมกับน้ำมันงา ทานคู่กับผักต่าง ๆ ตามมาด้วยไฮไลท์เด็ดอย่างหมึกแช่ที่ไม่ควรพลาด มาต่อกันที่ สุกี้กวางตุ้ง ที่มีเครื่องปรุงหลากหลาย ส่วนน้ำจิ้มจะใช้ซอสพริกเป็นส่วนประกอบหลัก ไม่เน้นเนื้อหมัก แต่มีเนื้อสัตว์ให้เลือกทานหลากหลายนอกจากนี้ยังมีเมนู สุกี้เสฉวน ที่ตอนนี้กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในไทย โดดเด่นด้วยความเผ็ดจากหม่าล่าและเครื่องปรุงตามแบบของจีน ส่วน สุกี้กุ้ยหลิน จะเน้นหนักไปที่เครื่องยาจีนและวัตถุดิบที่เป็นเห็ด ถือเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ครบเครื่อง ปิดท้ายด้วย สุกี้แต้จิ๋ว ใช้เนื้อไก่ หมู และลูกชิ้น ทานคู่กับน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ อร่อยลงตัว
- ในญี่ปุ่นเองเมนูนี้ก็ได้รับความนิยมจากผู้คนไม่น้อย นำเสนอในรูปแบบอาหารที่เป็นน้ำซุป และมีส่วนประกอบเป็นผัก เห็ด ไข่ เต้าหู้ และเนื้อสัตว์ โดยใช้ทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู และอาหารทะเล เอกลักษณะคือหม้อเหล็กที่ใช้สำหรับต้มรวม ปิดฝาแล้วต้มให้สุก จิ้มเนื้อสัตว์กับไข่ดิบ อร่อยกลมกล่อม
- ทั้งนี้ยังมีการดัดแปลงไปทานในรูปแบบอื่น ๆ อีกเพียบ เช่น แจ่วฮ้อน จิ้มจุ่ม รวมถึง สุกี้ไทพวน ของชาวนครนายก
แนะนำ 2 สูตรการทำเมนูสุกี้ มัดรวมมาให้ทั้งแบบแห้งและแบบน้ำ ทำง่าย อร่อยแถมได้ประโยชน์เต็มคำ
สูตรสุกี้แห้ง
ส่วนผสม
วุ้นเส้น, เนื้อหมู 100 กรัม, ไข่ไก่ 1 ฟอง, ผักกาดขาว, ผักบุ้ง, กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ, ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ, ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ, น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาล 1/2 ช้อนโต๊ะ, น้ำจิ้มสุกี้ 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ
เริ่มรังสรรค์เมนูง่าย ๆ แต่รสชาติอร่อยโดนใจ จากการตั้งกระทะด้วยไฟปานกลาง ใส่น้ำมันลงไป จากนั้นใส่กระเทียมสับลงไปผัดจนมีกลิ่นหอม ตามด้วยเนื้อหมู ผัดจนเนื้อหมูสุกดี จากนั้นจึงค่อยใส่ผักกาดขาวและผักบุ้งลงไปผัดจนผักสลด ขั้นตอนต่อไปให้ตอกไข่ลงไปผัดจนสุก ปิดท้ายด้วยวุ้นเส้น ผัดส่วนผสมให้เข้ากันดี เมื่อวุ้นเส้นเริ่มสุกจึงค่อยปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1/2 ช้อนโต๊ะ ผัดส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง ปิดเตาแล้วใส่น้ำจิ้มสุกี้ลงไปตามชอบ โรยหน้าด้วยขึ้นฉ่าย คลุกเคล้าให้เข้ากันดีก็สามารถตักเสิร์ฟ ลิ้มลองความอร่อยกันได้เลย
สูตรสุกี้น้ำ
ส่วนผสมในการหมักหมู
เนื้อหมูสไลซ์ 300 กรัม, น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ, ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา, ไข่ขาว 1 ฟอง, แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมในการทำสุกี้
น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง, ไข่ไก่ 1 ฟอง, วุ้นเส้นแช่น้ำ 20 กรัม, น้ำจิ้มสุกี้ 2 ทัพพี, หมูหมัก ตามต้องการ, ปลาหมึก/กุ้ง/หอยแมลงภู่/ลูกชิ้นปลา ตามต้องการ, ผักตามชอบ
วิธีการทำ
เริ่มด้วยการเตรียมวัตถุดิบนั่นก็คือ การเตรียมหมักหมู โดยนำเนื้อหมูสไลซ์ใส่ลงในชามผสม ตามด้วยน้ำมันหอย ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย ไข่ขาว และแป้งมัน คนส่วนผสมให้เข้ากัน แล้วหมักไว้ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ระหว่างนั้นให้หันมาเตรียมลวกผักเตรียมไว้ เพียงแค่ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด แล้วจึงใส่ผักกาดขาว ผักบุ้งจีน ขึ้นฉ่าย และต้นหอมลงไปลวกให้สลด แล้วตักขึ้นมาพักไว้ โดยจะไม่นำไปต้มพร้อมกับเนื้อสัตว์ เพราะจะทำให้ผักเละได้
ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการนำหมูหมัก ปลาหมึก กุ้ง หอยแมลงภู่ และลูกชิ้นปลาใส่ลงไปต้มในหม้อ จากนั้นตอกไข่ลงไป แล้วค่อยใส่น้ำจิ้มสุกี้ลงไปคนให้เข้ากัน เติมน้ำเปล่าลงไปแล้วต้มจากกว่าส่วนผสมในหม้อจะสุกดี จากนั้นใส่วุ้นเส้นลงไปคนให้เข้ากันกับน้ำซุป แล้วจึงยกลงจากเตา จัดจานเสิร์ฟโดยใส่ผักลวกที่เตรียมไว้ในหม้อก่อน ตามด้วยน้ำส่วนผสมน้ำซุป ราดน้ำจิ้มสุกี้ตามชอบ เป็นอันเสร็จสิ้น
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace