เชื่อว่าทุกคนคงรู้จัก “ผักชี” ที่นิยมนำไปโรยหน้าบนอาหารเมนูต่าง ๆ ทั้งเมนูอาหารไทยและเทศ จากกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งในความจริงแล้ว ผักชนิดนี้ไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่นำมาใช้ตกแต่งและเพิ่มสีสันให้อาหารน่าทานขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่สามารถนำไปประกอบเมนูแสนอร่อยได้อีกหลายเมนู ที่มาพร้อมกับประโยชน์มากมายจนอาจคาดไม่ถึง แต่จะมีเรื่องราวอะไรน่าสนใจบ้าง ตามเราไปติดตามข้อมูลเกี่ยวกับผักโรยหน้ายอดนิยมที่รวบรวมมาฝากกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ชวนไปทำความรู้จักผักชี ที่มีให้เลือกทานหลายประเภท
ผักชี พืชสมุนไพรที่มีชื่อท้องถิ่นเรียกกันคุ้นหูว่า “ผักชีไทย” หนึ่งในผักสีเขียวทั้งต้น มีเพียงส่วนรากเท่านั้นที่เป็นสีขาว มีถิ่นกำเนิดให้ประเทศเขตร้อน หาทานง่าย มีผลผลิตตลอดทั้งปี ซึ่งแหล่งผลิตที่ปลูกกันมากจะเป็นแถบจังหวัดราชบุรี กรุงเทพฯ และนครปฐม
โดยทุกส่วนประกอบ สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องเทศสำหรับปรุงอาหารได้ทั้งหมด แถมยังมีประโยชน์หลากหลาย นิยมนำมาเป็นผักเครื่องเคียงหรือโรยหน้าอาหารให้มีสีสันและกลิ่นหอมน่ารับประทาน
นอกจากนี้ยังมีผักชีชนิดอื่นอีกด้วย ทั้ง “ผักชีลาว” ที่มีลักษณะเด่นเป็นก้านเล็ก ๆ ใบเรียวเป็นฝอยคล้ายขนนก ในประเทศไทยเรานิยมนำมาทำเมนูอาหารประเภท แกงอ่อมหรือใส่ในห่อหมก มีสรรพคุณช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ และสำหรับเมนูอาหารฝรั่งจะใช้ผสมในเมนูปลาหรือเป็นผักเครื่องเคียง แถมยังสามารถนำมาทำเป็นเครื่องดื่มได้อีกด้วย
ส่วนอีกชนิดที่เป็นที่รู้จักกันดีในประเทศไทยนั่นคือ “ผักชีฝรั่ง” ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยจะเป็นผักสีเขียวใบเรียวยาว ขอบหยัก มีต้นกำเนิดในเม็กซิโกและทั่วทวีปอเมริกาใต้ ทั้งยังเป็นที่รู้จักในประเทศแถบเอเชียประเทศอื่น ๆ ด้วย
แนะนำประโยชน์ที่ได้จากการทานผักชี พร้อมโทษและข้อควรระวัง
ผักชี เป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินเค และมีโปรตีนสูง จึงมีส่วนสำคัญที่จะช่วยบำรุงสุขภาพ โดยสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยต้านการเกิดโรคมะเร็ง
ส่วนของรากสามารถดับกลิ่นคาวได้ดี นิยมนำมาใช้หมักเนื้อสัตว์ ลำต้นและใบ มีสรรพคุณแก้โรคหวัด ช่วยขับเหงื่อ แก้ไอ ขับเสมหะ ขับลม แก้ท้องอืด และส่วนของลูกผักชีมีส่วนช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือด สลายไขมัน และบรรเทาอาการอักเสบ
แต่ทั้งนี้หากร่างกายได้รับในประมาณที่มากเกิดไป ก็จะมีโทษด้วยเช่นกัน เนื่องจากผักชีจะทำให้มีกลิ่นตัวแรง เนื่องจากกลิ่นจะฝังตัวแน่นในร่างกาย ทั้งนี้ยังอาจมีอาการตาลาย ลืมง่าย ความจำไม่ค่อยดี จึงควรทานแต่พอดี
ส่วนกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงและเลือกทานอย่างระมัดระวังคือ ผู้ป่วยโรคไต ผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ หรือคนที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับช่องปาก เพราะอาจทำให้มีอาการรุนแรงขึ้นได้
บอกต่อ 2 สูตรความอร่อยจากเมนูใส่ผักชี มีดีมากกว่าผักโรยหน้า
1.เบคอนพันเห็ดเข็มทองและผักชีทอด
ส่วนผสม
เบคอน 1 ห่อ
เห็ดเข็มทอง 2 ห่อ
ผักชี 1 ต้น
วิธีการทำ
เริ่มต้นด้วยการวางเบคอนเรียงทีละแผ่น วางทับด้วยเห็ดเข็มทองและผักชี ม้วนให้แน่น จากนั้นนำไปใส่ในหม้อทอดไร้น้ำมัน โดยใช้ความร้อน 160 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 นาที เมื่อครบเวลาให้กลับด้านแล้วเอาเข้าหม้อทอดต่ออีก 5 นาที เพียงเท่านี้ก็จะได้เมนูอาหารทานเล่นง่าย ๆ ไว้ทานระหว่างวันแล้ว เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มสุกี้ เข้ากันอย่างลงตัว
2.แกงผักชี
ส่วนผสม
หมูสับ 300 กรัม
ผักชี 3-4 กำ
น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 2 ถ้วย
วิธีการทำ
เป็นอีกเมนูที่มีขั้นตอนการทำง่าย ๆ ไม่ซับซ้อนยุ่งยาก เพียงแค่นำผักชีมาซอยให้ละเอียด ใส่รวมกับเนื้อหมูในชามผสม ปรุงรสด้วยน้ำปลาเล็กน้อย จากนั้นนวดให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี ปั้นเป็นก้อนขนาดพอดีคำ ก่อนจะเตรียมตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด แล้วจึงใส่หมูที่ปั้นเตรียมไว้ลงไปต้มจนสุก ระหว่างนั้นให้หมั่นช้อนฟองออกเพื่อให้ได้น้ำซุปที่ใสน่าทาน เมื่อเนื้อหมูสุกแล้วสามารถปิดเตาและยกลง พร้อมเสิร์ฟ
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace