เชื่อว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จัก “กะเพรา” หนึ่งในสมุนไพรไทยที่นิยมนำมาประกอบอาหารจานด่วน หรือที่หลายคนเรียกกันว่าเมนูสิ้นคิด แต่ความจริงแล้ว เมื่อนำสมุนไพรชนิดนี้มาเป็นส่วนผสมในอาหาร กลับยิ่งช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้กับเมนูอาหารไทยให้มากขึ้น แต่น้อยคนนักที่จะรู้ข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจและสรรพคุณของพืชผักชนิดนี้ วันนี้เราได้รวบรวมมาให้แล้วแบบครบจบในที่เดียว
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
เรื่องน่ารู้ของ “กะเพรา” เกี่ยวกับลักษณะ การนำไปใช้
กะเพรา เป็นไม้พุ่มเตี้ยที่มีความสูงประมาณ 30-60 เซนติเมตร โคนต้นค่อนข้างแข็ง ก้านเป็นขน ใบเรียวปลายมน ขอบใบหยัก พื้นใบเป็นสีเขียวหรือแดง ออกดอกเป็นช่อตั้งขึ้นลักษณะคล้ายฉัตร ผลเมื่อแห้งแล้วจะแตกออกเผยให้เห็นเมล็ดแก่สีดำ นิยมนำส่วนใบมาปรุงอาหารซึ่งส่วนมากจะเป็นอาหารไทยที่เราคุ้นเคยกันดี
เราสามารถนำกะเพรามาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน ใบช่วยบำรุงธาตุ ขับลม แก้จุกเสียด ส่วนเมล็ด เมื่อนำไปแช่น้ำ สามารถนำเมือกที่ได้มาพอกตาที่มีผงฝุ่นเข้าไปได้ รากที่แห้งแล้วสามารถนำมาต้มกับน้ำดื่มแก้โรคธาตุพิการ น้ำสกัดช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีกเพียบ
แบ่งปัน 3 สูตรอาหารที่มี “กะเพรา” เป็นวัตถุดิบ
1.หอยแมลงภู่ผัดกะเพราอบชีส
ส่วนผสม
หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ครึ่งฝาแช่แข็ง 1 แพ็ค
ชีสมอสซาเรลลา 100 กรัม
พริกขี้หนูจินดาโขลก 15 เม็ด
ใบกะเพรา 1 มัด
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมโขลก 6 กลีบ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
พริกซอย สำหรับจัดเสิร์ฟ
ต้นหอมซอย สำหรับจัดเสิร์ฟ
วิธีการทำ
นำหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ครึ่งฝาแช่แข็งมาละลายน้ำแข็งในตู้เย็น โดยนำไปแช่ในช่องธรรมดา 1 คืน เพื่อให้สามารถคงไว้ซึ่งเนื้อสัมผัสและรสชาติที่ดีที่สุด จากนั้นตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย รอให้น้ำมันเริ่มร้อนจึงใส่พริกขี้หนูจินดาโขลกและกระเทียมโขลกลงไปผัดกับน้ำมันจนส่งกลิ่นหอม
นำหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ครึ่งฝาที่ละลายน้ำแข็งเรียบร้อยแล้ว ลงมาผัดในกระทะให้ได้ความสุกประมาณ 70% แล้วทำการปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย ก่อนจะผัดให้เข้ากันดี
ใส่ใบกะเพราลงไปผัดให้มีกลิ่นหอม เมื่อผักสลดแล้วสามารถยกลงจากกระทะแล้วเตรียมทำการจัดเสิร์ฟ ตักส่วนผสมทั้งหมดใส่ถ้วยหรือถาดที่สามารถเอาเข้าเตาอบได้ จากนั้นโรยหน้าด้วยชีสมอสซาเรลลา อบที่อุณหภูมิประมาณ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 15 นาที ชีสจะละลายและมีสีสันน่าทาน เมื่อครบเวลาแล้วนำออกจากเตา ปิดท้ายด้วยการโรยผักชีและพริกซอย เป็นอันเสร็จ
2.กะเพราหมูสับเต้าหู้ไข่
ส่วนผสม
เต้าหู้ไข่ 2 หลอด
หมูสับ 150 กรัม
แป้งทอดกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูโขลก 7 เม็ด
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันปาล์ม ½ ถ้วย
ซอสหอยนางรม 1¼ ช้อนโต๊ะ
น้ำซุป 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย ⅓ ช้อนโต๊ะ
น้ำมันสำหรับผัด 3 ช้อนโต๊ะ
ใบกะเพรา 1 ถ้วยตวง
วิธีการทำ
เริ่มด้วยการนำเต้าหู้ไข่ไปชุบกับแป้งทอดกรอบจนทั่ว จากนั้นเตรียมตั้งกระทะ ใส่น้ำมันปาล์มลงไป รอให้น้ำมันร้อนแล้วจึงใส่เต้าหู้ที่ชุบแป้งเตรียมไว้ลงไปทอดจนกลายเป็นสีเหลืองทองแล้วตักขึ้นมาพักไว้
ตั้งกระทะอีกใบ ใส่น้ำมันลงไปตามด้วยกระเทียมและพริกขี้หนู ผัดจนส่งกลิ่นหอมจึงใส่หมูสับลงไปผัดให้พอสุก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม และน้ำตาลทราย เติมน้ำซุปลงไป ผัดให้เนื้อหมูสับสุกดี ใส่ใบกะเพราลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดท้ายด้วยการใส่เต้าหู้ที่ทอดเตรียมไว้ลงไปผัดให้เข้ากัน เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟ
3.หมูแผ่นกะเพราชีส
ส่วนผสม
หมูบด 300 กรัม
ใบกะเพรา 1 มัด
พริกขี้หนูจินดาโขลก 15 เม็ด
หมูแผ่น 1 ซอง
ชีสมอสซาเรลลา 100 กรัม
กระเทียมโขลก 6 กลีบ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำ 1/2 ช้อนชา
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
ผักชีและพริกซอย สำหรับจัดเสิร์ฟ
วิธีการทำ
เตรียมตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมันลงไป เมื่อน้ำมันเริ่มร้อนให้ใส่กระเทียมโขลกและพริกขี้หนูจิดาโขลกลงไปผัด จากนั้นใส่เนื้อหมูบดลงไปผัดให้ได้ความสุกที่ 70% ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำมันหอย น้ำตาลทราย และซีอิ๊วดำ เติมน้ำเปล่าลงไปแล้วผัดให้เข้ากัน ปิดท้ายด้วยการใส่ใบกะเพราลงไปผัดให้เข้ากันอีกครั้ง สังเกตเมื่อผัดสลดก็สามารถตักขึ้นมาพักไว้ได้เลย
ขั้นตอนต่อไปให้นำหมูแผ่นที่ซื้อมาวางเรียงในจานหรือถาดที่สามารถนำเข้าเตาอบได้ ตักส่วนผสมที่ผัดเตรียมไว้วางลงบนหมูแผ่น โรยหน้าด้วยชีสมอสซาเรลลา ก่อนนำไปอบด้วยอุณหภูมิ 200 องศา ใช้เวลาประมาณ 15 นาที เมื่อครบเวลาแล้วสามารถนำมาจัดเสิร์ฟด้วยการโรยผักชีและพริกซอยเพิ่มสีสันได้เลย
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace