อินทผลัม ผลไม้เมืองนอกที่ถึงแม้จะเต็มไปด้วยน้ำตาลจากธรรมชาติ แต่รสชาติหวานฉ่ำแสนอร่อยที่ได้จากผลไม้ชนิดนี้ กลับอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมายที่ให้ผลดีกับร่างกาย ทำให้ได้รับความนิยมจนสามารถหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด ในบทความนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับผลไม้ชนิดนี้กันให้มากขึ้น จะมีอะไรน่าสนใจรอให้ไปติดตามอยู่บ้าง ตามไปดูพร้อมกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับอินทผลัม ผลไม้รสหวานที่นิยมในหมู่คนรักสุขภาพ กับวิธีเลือกซื้อทั้งแบบสดและแบบแห้ง
อินทผลัม หรือที่คนไทยเรียกกันอย่างคุ้นชินว่า “อินทผาลัม” ผลไม้รสหวานที่หลายคนอาจไม่เคยรู้จักหรือเลือกที่จะไม่รับประทาน เพราะกังวลถึงปัญหาสุขภาพที่จะตามมากับรสชาติ แต่ความจริงแล้วรสหวานที่โดดเด่นเช่นนี้ไม่ได้มีผลร้ายแรง ในทางกลับกันกลับมีประโยชน์ต่อร่างกายในหลากหลายด้าน
อินทผลัม มีต้นกำเนิดมาจากประเทศแถบตะวันออกกลาง ลักษณะของผลจะเป็นสีน้ำตาล เหลือง หรือแดง สามารถทานได้ทั้งเปลือก ตั้งแต่ผลดิบ ผลสุกแบบสด ๆ และผลที่ผ่านการตากแห้งมาแล้ว ซึ่งจะมีเนื้อหนึบหนับกว่าผลสด มีรสหวานจัด และให้น้ำตาลที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ที่สำคัญให้พลังงานสูงมาก จึงมักถูกเลือกเป็นเมนูยอดนิยมในช่วยถือสิลอดของชาวมุสลิม โดยในประเทศไทยก็มีให้เลือกทานหลากหลายสายพันธุ์ แต่หลัก ๆ จะแบ่งขายเป็นแบบสดและแบบแห้ง และสามารถเลือกซื้อได้ ดังวิธีต่อไปนี้
- วิธีเลือกซื้ออินทผาลัม แบบสด : หากยังไม่ต้องการทานในทันที ให้เลือกผลที่มีความตึงด้านของผิวจะสามารถเก็บได้นาน 3-4 วัน แต่ถ้าอยากทานเลยให้เลือกผลสีเขียวอ่อนที่มีความนิ่มกว่า
- วิธีเลือกซื้ออินทผาลัม แบบแห้ง : สามารถเลือกซื้อได้ง่าย ๆ เพราะไม่ได้มีความแตกต่างกันมาก แต่ให้สังเกตวันเดือนปีที่ผลิตและหมดอายุก็เพียงพอแล้ว
แนะนำประโยชน์ของอินทผลัม พร้อมข้อควรระวังในการทาน เลือกทานอย่างไรให้ดีต่อร่างกายมากที่สุด
ประโยชน์ของอินทผลัมมีมากกว่าจะเป็นแหล่งน้ำตาลที่ให้พลังงานสูง เพราะยังอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และเกลือแร่ต่าง ๆ อีกเพียบ มีกากใยสูง ช่วยกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนที่ของลำไส้ อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายได้หลากหลายชนิด มีสารที่ช่วยให้สมองแข็งแรง ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ทั้งยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย
ประโยชน์ล้นเหลือขนาดนี้ก็มีข้อควรระวังในการรับประทานเช่นกัน แม้จะเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่หากได้รับในปริมาณมากก็อาจเกิดผลเสียงได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวานจำเป็นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้ระดับน้ำตาลสูงขึ้น และป้องกันไม่ให้ปัญหาอื่น ๆ ตามมาในภายหลัง ดังนั้นควรเลือกทานในปริมาณที่เหมาะสมจึงจะดีที่สุด
3 เมนูคลีนง่าย ๆ จากอินทผลัม ไม่ต้องใช้น้ำตาล เมนูของว่าง อิ่มสบายท้อง แถมได้ประโยชน์เต็ม ๆ คำ
1.เมล็ดเจียเนยถั่วบอล
ส่วนผสมในการทำ
- อินทผลัมแห้ง 6 ลูก
- ผงโปรตีน 25 กรัม
- เนยถั่ว 4 ช้อนโต๊ะ
- เมล็ดเจียบด 2 ช้อนชา
ขั้นตอนและวิธีการทำ
- เริ่มต้นขั้นตอนแรกด้วยการนำส่วนผสมทั้งหมดที่เตรียมไว้เทใส่ลงในเครื่องผสมอาหาร แล้วทำการบดให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียว
- จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้จากการบดมาปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ พอดีคำ
- ขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะมาเป็นอาหารคลีนไว้ทานรองท้องในยามว่างคือ การนำเจ้าก้อนกลม ๆ ใส่ภาชนะแล้วปิดให้มิดชิดนำเข้าตู้เย็นก่อนเสิร์ฟ
2.แครนเบอร์รีเอนเนอร์จี้ไบท์
ส่วนผสมในการทำ
- อินทผาลัมแห้งสับ 6-7 เม็ด
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์ดิบ ½ ถ้วย
- อัลมอนด์ดิบหรืออัลมอนด์มีล ½ ถ้วย
- แครนเบอร์รีอบแห้ง ½ ถ้วย
- กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
- เกลือป่น เล็กน้อย
ขั้นตอนและวิธีการทำ
- เริ่มต้นด้วยการใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์กับอัลมอนด์ลงไปในเครื่องปั่น แล้วปั่นส่วนผสมให้ละเอียดด้วยความเร็วสูง
- ขั้นตอนต่อไปจึงค่อยใส่ส่วนผสมที่เหลือตามลงไปปั่นจนละเอียด เพื่อให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี จากนั้นเติมน้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ แล้วค่อย ๆ คนผสมให้เข้ากัน
- นำส่วนผสมมาปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ ชิ้นพอดีคำ ปั้นวนไปจนกว่าหมด
- ขั้นตอนสุดท้ายให้นำไปใส่ในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด แล้วแช่ตู้เย็นก่อนนำออกมาทาน
3.พิสตาชิโอเอนเนอร์จี้ไบท์
ส่วนผสมในการทำ
- อินทผลัมแห้งสับ 227 กรัม
- น้ำผึ้ง ½ ถ้วย
- เมล็ดเจีย 1 ช้อนโต๊ะ
- เมล็ดแฟลกซ์ 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น เล็กน้อย
- ข้าวโอ๊ต 1½ ถ้วย
- พิสตาชิโออบแกะเปลือก 1 ถ้วย
- แครนเบอร์รีอบแห้ง 1 ถ้วย
- ไวท์ช็อกโกแลตชิพ ½ ถ้วย
ขั้นตอนและวิธีการทำ
- ขั้นตอนแรกเริ่มจากการใส่วัตถุดิบหลัก เสริมทัพด้วยน้ำผึ้ง เมล็ดเจีย เมล็ดแฟลกซ์ และเกลือลงไปในเครื่องปั่น จากนั้นปั่นจนส่วนผสมให้ละเอียดเข้ากัน เทใส่ชามผสมพักไว้
- ลำดับต่อไปให้เติมข้าวโอ๊ต พิสตาชิโอ แครนเบอร์รี และไวท์ช็อกโกแลตชิพตามลงไป คนผสมให้เข้ากัน
- ใช้แรปพลาสติกปิดชามผสมให้มิดชิดแล้วนำเข้าตู้เย็นเป็นเวลาประมาณ 30 นาที
- เมื่อครบเวลาแล้วให้นำออกมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ขนาดเล็กกำลังดี เพียงเท่านี้เมนูขนมคลีนสำหรับสายสุขภาพก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace