เข้าสู่ช่วงหน้าร้อนแบบนี้ หลายคนเริ่มมองหาเมนูคลายร้อนที่จะเข้ามาช่วยดับอุณหภูมิที่พุ่งสูงปรี๊ด “มะยงชิด” เป็นหนึ่งในผลไม้ยอดฮิตที่คนไทยนิยมทานกันเมื่อฤดูร้อนมาเยือน ด้วยรสชาติที่หวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย จึงช่วยเติมความสดชื่นได้ดี แถมมีสรรพคุณที่น่าทึ่ง ทานแล้วดีต่อร่างกาย นอกจากจะเป็นผลไม้ที่ปอกเปลือกกินแบบสด ๆ ได้เลย ยังสามารถนำไปทำเมนูน่าทานได้อีกหลากหลายเมนู Foodspace จึงไม่พลาดนำความรู้เกี่ยวผลไม้หน้าร้อนชนิดนี้มาแนะนำ ก่อนจะชวนเข้าครัวไปทำเมนูแสนอร่อยหลากสไตล์จากวัตถุดิบหลักของเราในวันนี้ พร้อมแล้วไปเรียนรู้พร้อมกันเลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักมะยงชิดคืออะไร? ผลไม้หวานฉ่ำดับร้อนแตกต่างจากมะปรางอย่างไร? วันนี้มีคำตอบ
มะยงชิด เป็นผลไม้ตระกูลเดียวกับมะปราง ลักษณะของผลจึงคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก ผลมะยงชิดมีสีเหลืองออกส้ม และมีขนาดแตกต่างกันไปตามลักษณะของสายพันธุ์ ในส่วนของรสชาติหากเป็นผลดิบจะมีรสออกเปรี้ยว ผลสุกจะให้รสหวานอมเปรี้ยว แต่รสหวานจะโดดเด่นกว่า โดยมีความแตกต่างกับมะปรางคือ ผลมะปรางจะมีสีเหลืองนวล บางสายพันธุ์อาจมีสีเหลืองออกทอง ส่วนรสชาติจะเป็นรสเปรี้ยวอมหวาน ซึ่งรสเปรี้ยวจะนำหวานมากกว่า นั่นเอง
แนะนำประโยชน์ของมะยงชิด ผลไม้ยอดฮิตในช่วงหน้าร้อน ดีต่อร่างกายมากกว่าช่วยคลายร้อน
ผลไม้คลายร้อนชนิดนี้เป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอ วิตามินซี ทั้งยังมีเบต้าแคโรทีนสูง แคลเซียมและฟอสฟอรัส ทำให้ประโยชน์ของมะยงชิดมีมากมาย และครอบคลุมเรื่องสุขภาพหลาย ๆ ในด้าน ตัวอย่างเช่น
- ช่วยเติมความสดชื่นให้ร่างกาย ด้วยลักษณะของผลไม้ที่มีเนื้อเยอะ ฉ่ำน้ำ บวกกับรสชาติหวานอมเปรี้ยว เมื่อได้ทานจึงทำให้รู้สึกสดชื่นมากขึ้น
- ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ไม่เจ็บป่วยง่าย
- ช่วยบำรุงสายตา
- ช่วยป้องกันอาการเลือดออกตามไรฟัน ป้องกันโรคหวัด
- ช่วยลดความเสี่ยงโรคเกี่ยวกับกระดูกและฟัน เนื่องจากมีสารอาหารที่สำคัญต่อการดูแลกระดูก ช่วยบำรุงให้กระดูกและฟันแข็งแรงมากขึ้น ไปพร้อมกับ ๆ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคกระดูกเสื่อม รวมถึงกระดูกพรุน
บอกต่อความอร่อย 3 เมนูดับร้อนจากมะยงชิด สนุกกับการเข้าครัว ทำง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำตามได้
มะยงชิดลอยแก้ว
ส่วนผสม
- มะยงชิด 8-10 ลูก
- น้ำสะอาด 1 ลิตร
- น้ำตาล 250 กรัม
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ใบเตย 2-3 ใบ
ขั้นตอนและวิธีการทำ
- เริ่มต้นด้วยการปอกและคว้านเมล็ดออก แล้วจึงนำไปล้างน้ำเกลือเพื่อล้างยางออกแล้วพักไว้
- ขั้นตอนต่อไปให้ตั้งหม้อ เติมน้ำสะอาดและน้ำตาลลงไปในหม้อ จากนั้นต้มให้น้ำเดือด รอจนจนกว่าน้ำตาลจะละลาย หากใส่ใบเตยเพิ่มลงไปจะทำให้มีกลิ่นหอมน่าทานมากยิ่งขึ้น
- จากนั้นให้น้ำผลไม้ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนแรกมาแช่ในน้ำเชื่อมใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมงหรือจะแช่ข้ามคืนก็ได้เช่นกัน
2.ชีสพายมะยงชิด
ส่วนผสมฐานพาย
- บิสกิตหรือแครกเกอร์ป่น 270 กรัม
- เนยละลาย 100 กรัม
ส่วนผสมครีมชีส
- ครีมชีส 500 กรัม
- น้ำตาลไอซิ่ง 65 กรัม
- วิปครีมแดรี่ 400 กรัม
- นมข้นหวาน 120 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
ส่วนผสมตกแต่งหน้า
- มะยงชิด (2 ลูกต่อถ้วย) 24 ลูก
ขั้นตอนและวิธีการทำ
- ขั้นตอนแรกให้นำผลไม้ทั้งหมดมาล้างน้ำสะอาดที่ผสมเบกกิ้งโซดาประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ โดยแช่ทิ้งไว้ 5 นาที จึงนำมาล้างอีก 2-3 น้ำ แล้วค่อยปอกเปลือก ต่อด้วยเฉือนเนื้อออกจากเมล็ดขนาดพอดีคำ
- เตรียมชามผสม ใส่บิสกิตป่น แล้วเทเนยละลายลงไปผสม จากนั้นคลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน เสร็จแล้วให้นำไปใส่ถ้วยทำเป็นฐาน
- เตรียมชามผสมอีกใบเพื่อตีครีมชีสให้นุ่มฟู โดยผสมครีมชีสและน้ำตาลไอซิ่งลงไปแล้วตีด้วยความเร็วสูงประมาณ 3 นาที
- เติมนมข้นหวาน วิปปิ้งครีมจากนมแท้ และกลิ่นวนิลลาลงไปตีผสมในชามอีกประมาณ 3 นาที สังเกตเนื้อที่ได้ต้องเนียนสวย
- นำผลไม้ที่หั่นเตรียมไว้ในขั้นตอนแรกมาจัดเรียงเป็นชั้นต่อไปของถ้วย จากนั้นใส่ส่วนผสมครีมชีสลงไป ปิดท้ายด้วยการนำชิ้นผลไม้มาตกแต่งบนหน้าชีสพาย
3.บิงซูมะยงชิด
ส่วนผสม
- นมสด 600 กรัม
- นมข้นหวาน 3 ช้อนโต๊ะ
- เค้กเนยสด
- มะยงชิด 5-6 ลูก
- วิปครีม 50 กรัม
ขั้นตอนและวิธีการทำ
- เริ่มจากการเตรียมชามผสมใส่นมสดลงไปแล้วผสมด้วยนมข้นหวาน คนให้เข้ากันดี จากนั้นเทลงในซิปล็อค ทำการรีดอากาศออกให้หมดก่อนจะปิดถุง แล้วนำเข้าช่องแช่แข็งในตู้เย็นประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง เมื่อครบเวลาจึงนำออกมาทุบด้วยไม้ให้กลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง
- ระหว่างรอให้หันมาปอกผลไม้และหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เตรียมไว้ และอย่าลืมที่จะแยกส่วนหนึ่งออกมาสับ
- ขั้นตอนต่อไปให้ตักเกล็ดน้ำแข็งใส่ถ้วยที่จะเสิร์ฟ วางเค้กเนยสดเรียงกัน ตามด้วยผลไม้ที่เตรียมไว้ จากนั้นออนท็อปด้วยเกล็ดน้ำแข็งอีกชั้นหนึ่ง แล้วค่อยนำผลไม้สับมาโรยตกแต่ง ปิดท้ายด้วยวิปครีม เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟ