ส้มโอ เป็นผลไม้รสหวานอมเปรี้ยวที่หลายคนชื่นชอบ นอกจากการทานผลสดที่ช่วยเติมความรู้สึกสดชื่นเมื่อได้ทานแล้ว ยังมีเมนูส้มโอที่ใช้ส่วนผลและเปลือกมาเป็นวัตถุดิบหลักของอาหารทั้งคาวและหวานอีกด้วย ส่วนจะมีเมนูอะไรน่าสนใจบ้าง ตามเราไปเช็คลิสต์พร้อมกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับส้มโอ ผลไม้รสหวานอมเปรี้ยว รับรองอร่อยถูกใจ
ส้มโอ เป็นผลไม้ที่อยู่ในตระกูลเดียวกับ ส้มเขียวหวาน มะนาว มะกรูด ส้มเช้ง และส้มเกรปฟรุต ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ส้มโอมีชื่อสามัญว่า Pomelo ที่หมายความว่า ส้มที่มีผลเท่าฟักทอง ในภาษาดัตช์ ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่น มาเลเซีย, ไทย, อินโดนีเซีย, พม่า, ลาว, กัมพูชา เป็นต้น
สำหรับในประเทศไทยนั้น การปลูกในช่วงแรกจะปลูกในบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงพระนครและฝั่งธนบุรี ในระยะต่อมาได้มีการส่งเสริมให้ปลูกมากขึ้นทั่วภาคกลางเช่น ในอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม และยังมีการพัฒนาสายพันธุ์เพิ่มขึ้นมาอีกหลายสายพันธุ์เช่น พันธุ์ขาวแป้น, พันธุ์ขาวพวง เป็นต้น และต่อมาได้กระจายตัวออกไปในทุก ๆ ภูมิภาคของไทย
ประโยชน์ของส้มโอที่หลาย ๆ คนไม่เคยรู้
1.เป็นแหล่งของวิตามินซี
มีวิตามินซีในปริมาณมาก ช่วยปกป้องเซลล์ และทำให้สุขภาพแข็งแรง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ช่วยบำรุงในเรื่องความสวยความงาม สร้างคอลลาเจนให้กับชั้นผิว ส่งผลให้ผิวพรรณดูกระจ่างใสขึ้น และต่อต้านริ้วรอย
2.อุดมไปด้วยไฟเบอร์
ในส้มโอ 1 ผลมีไฟเบอร์ 6 กรัม ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเส้นใยที่ไม่ละลายน้ำ ช่วยป้องกันอาการท้องผูก ทำให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นยังทำหน้าที่เป็นแหล่งอาหารให้แก่แบคทีเรีย ที่ทำให้ลำไส้มีสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ โรคอ้วน และโรคเบาหวาน
3.บำรุงกระดูก
ส้มโอเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุประเภทต่าง ๆ เช่น แคลเซียม เหล็ก ทองแดง สังกะสี แมงกานีส และโพแทสเซียม ซึ่งทั้งหมดที่ได้กล่าวมามีคุณสมบัติช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง และช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้
4.ต่อสู้กับการติดเชื้อ
จากการศึกษาของ The Vietnam National University พบว่า ส้มโอมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ช่วยรักษาอาการติดเชื้อบางชนิด และยังค้นพบอีกว่า น้ำมันหอมระเหยที่ทำจากส้มโอช่วยในการต่อต้านเชื้อรา
5.ช่วยให้หัวใจแข็งแรง
ส้มโอช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ไขมันในเลือดที่ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจ ซึ่งผลการศึกษาระบุว่า ส้มโอช่วยลดไขมันในเลือด และป้องกันไม่ให้คอเลสเตอรอลในอาหารถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เต็มที่
6.อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
ส้มโออุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Naringenin และ Naringin) ช่วยป้องกันและฟื้นฟูความเสียหายของเซลล์ นอกจากนี้ยังมีไลโคปีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต้านการอักเสบและบำรุงหัวใจให้แข็งแรง
รวม 4 สูตรการทำเมนูอาหารคาวและหวานจากส้มโอ ทำง่าย มือใหม่ก็ทำตามได้
1.ลาบส้มโอกุ้งแก้ว
ส่วนผสม
ส้มโอพันธุ์ขาวใหญ่แกะเป็นชิ้นพอดีคำ 200 กรัม, กุ้งแช่แข็งล้างให้สะอาด 12 ตัว, ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ, หอมแขกหั่นเส้น ¼ ถ้วย, ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ, พริกป่น 1 ช้อนชา, น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา, น้ำมะนาว 2 ½ ช้อนโต๊ะ, ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ, ใบสะระแหน่ สำหรับโรยหน้า
วิธีการทำ
เริ่มต้นด้วยขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ โดยตั้งหม้อต้มน้ำเปล่าให้พอเดือดแล้วนำกุ้งแช่แช่งที่ผ่านการล้างทำความสะอาดมาเรียบร้อยแล้วลงไปต้มจนสุก ตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นเตรียมชามผสม ใส่น้ำปลา พริกป่น น้ำตาลทราย และน้ำมะนาว คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน แล้วค่อยใส่ส้มโอ กุ้งสุกที่ต้มเตรียมไว้ ข้าวคั่ว หอมแขก ต้นหอม และผักชีฝรั่งตามลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จาน ก่อนเสิร์ฟโรยหน้าด้วยใบสะระแหน่เป็นอันเสร็จ
2.ยำส้มโอ
ส่วนผสม
กุ้งสดปอกเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำออกลวกสุก 5 ตัว, ส้มโอพันธุ์ขาวน้ำผึ้งแกะเนื้อ 150 กรัม, มะพร้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ, ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ, ใบมะกรูดซอย 2 ช้อนโต๊ะ, กุ้งแห้งป่น 2 ช้อนโต๊ะ, หอมแดงเจียว 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลปี๊บ 1½ ช้อนชา, น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ, พริกชี้ฟ้าแดงซอยเส้น และผักชี สำหรับโรยหน้า
วิธีการทำ
เตรียมชามผสม ใส่น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และน้ำพริกเผาลงไปคนผสมให้เข้ากัน ตามด้วยส้มโอ กุ้ง มะพร้าวคั่ว ถั่วลิสงคั่ว ใบมะกรูด กุ้งแห้ง และหอมแดงเจียว คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง ชิมรสชาติและปรุงเพิ่มเติมได้ตามชอบ เพียงเท่านี้ก็สามารถตักใส่จาน โรยหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าและผักชี เสิร์ฟได้เลย
3.สลัดส้มโอกุ้ง
ส่วนผสม
กุ้งขนาดกลางปอกเปลือกแกะหาง 4 ตัว, ส้มโอ ½ ถ้วย, ถั่วงอกสดล้างและสะเด็ดน้ำ ½ ถ้วย, ใบโหระพาฉีก 6-8 ใบ, ใบสะระแหน่ฉีก 6-8 ใบ, ผักชี 2 ช้อนโต๊ะ, เกลือ เล็กน้อย
ส่วนผสมในการทำน้ำสลัด
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำปลา 1 ช้อนชา, น้ำตาล 1 ช้อนชา, พริกขี้หนูหั่นฝอย 1 เม็ด, ขิงขูด 1/8 ช้อนชา, กระเทียมสับ 1/8 ช้อนชา, น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ
เป็นอีกเมนูเพื่อสุขภาพที่ทำทานเองที่บ้านได้ง่าย ๆ โดยเริ่มจากการเตรียมส่วนของน้ำสลัด เพียงเตรียมชามผสมแล้วใส่ส่วนผสมของน้ำสลัดทั้งหมดลงไปคนผสมกัน จากนั้นพักไว้แล้วหันมาเตรียมส่วนผสมของสลัดกันต่อ ย่างกุ้งหรือนึ่งให้สุก แล้วพักไว้ ใช้ชามผสมอีกใบใส่ส้มโอ ถั่วงอก โหระพา ใบสะระแหน่ และผักชีลงไปแล้วปรุงรสด้วยเกลือ คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จัดจานเสิร์ฟ เทส่วนผสมลงในจาน ตามด้วยกุ้ง ปิดท้ายด้วยการราดน้ำสลัดลงไปก็พร้อมเสิร์ฟ
4.สาคูส้มโอมะม่วง
ส่วนผสม
มะม่วงสุกลูกใหญ่หั่นเต๋า 2 ลูก, ส้มโอฉีก ¼ ลูก, กะทิกล่องธัญพืช 400 มิลลิลิตร, สาคู 80 กรัม
วิธีการทำ
เริ่มจากการต้มสาคูให้สุก แล้วสะเด็ดน้ำ จากนั้นนำไปล้างผ่านน้ำไหลเย็น จากนั้นพักให้สะเด็ดน้ำอีกครั้ง ขั้นตอนต่อไปใส่เนื้อส้มโอลงในชามสาคูที่เตรียมไว้ ตามด้วยมะม่วง ¼ ลูก และมะม่วงส่วนที่เหลือให้ใส่ลงในเครื่องปั่น เติมกะทิลงไปและปั่นจนละเอียด จากนั้นเทส่วนผสมดังกล่าวลงในชามสาคู คลุกเคล้าให้เข้ากัน ก่อนเสิร์ฟนำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นตกแต่งด้วยมะม่วงหั่นเต๋า เนื้อส้มโอ ปิดท้ายด้วยการราดน้ำกะทิ
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace