ปอเปี๊ยะสด เป็นเมนูของทานเล่นตามแบบต้นตำรับอาหารจีนที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลก ด้วยความนุ่มของแผ่นแป้งที่สอดไส้ด้วยวัตถุดิบหลากหลายชนิด ซื้อทานได้ทั่วไป แต่หากได้เข้าครัวทำด้วยตัวเองก็จะสามารถครีเอทไส้ได้ตามความชอบ วันนี้เราจึงขออาสาแนะนำสูตรเด็ดความอร่อยของเมนูรองท้องที่หลายคนโปรดปราน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
เมนูอาหารทานเล่นทำง่าย ปอเปี๊ยะทอด
พาส่องที่มาที่ไปของเมนูปอเปี๊ยะสด เมนูอาหารจีนที่ได้รับความนิยมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ห้ามพลาด!
ปอเปี๊ยะสด เมนูอาหารที่คนไทยนิยมทานกันมาอย่างยาวนาน เป็นเมนูอาหารว่างที่มีต้นกำเนิดในประเทศจีน ขึ้นชื่อว่าเป็นเมนูสำหรับสายสุขภาพ เพราะประกอบได้ด้วยส่วนผสมที่ลงตัว แม้จะมีเพียงแป้งแผ่นบางที่ห่อหุ้ม ผักและเครื่องเคียงไม่กี่อย่าง แต่ความอร่อยถูกปาก ถูกใจใครหลาย ๆ หลายคนจนกลายเป็นเมนูที่แพร่หลายไปทั่วโลก นอกจากนี้ยังสามารถเลือกทานในรูปแบบปอเปี๊ยะทอด ได้เนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน แถมความอร่อยก็แตกต่างกันออกไปด้วย
แบ่งปันสูตรการทำปอเปี๊ยะสดง่าย ๆ ตามสูตรต้นตำรับ ทำตามง่าย ใคร ๆ ก็เข้าครัวทำทานเองได้ที่บ้าน
ส่วนผสมน้ำราดปอเปี๊ยะสด
- น้ำเปล่า 1 ลิตร
- ผงพะโล้ 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรสฝาเขียว 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี 240 กรัม
- น้ำมะขามเปียก 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วดำหวาน 1 ช้อนโต๊ะ
- แป้งข้าวโพด 5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่าสำหรับผสมแป้งข้าวโพด 100 มิลลิลิตร
ส่วนผสมเครื่องเคียง
- หมูสันนอกหั่นชิ้นยาว 350 กรัม
- เต้าหู้แข็งหั่นเส้นยาว 2 ก้อน
- เห็ดหอมสดหั่นชิ้นบาง 100 กรัม
- กุนเชียง 250 กรัม
- ไข่ไก่ (สำหรับทำไข่ฝอย) 2 ฟอง
- ถั่วงอก 300 กรัม
- แตงร้าน 3-4 ลูก
- ต้นหอม 10 ต้น
- พริกชี้ฟ้าเขียว, แดง ชนิดละ 1 เม็ด
- แผ่นปอเปี๊ยะสด 1 กิโลกรัม
วิธีการทำน้ำราด
- เริ่มต้นขั้นตอนแรกด้วยการตั้งหม้อโดยใช้ไฟปานกลาง แล้วจึงเทน้ำใส่ลงไปในหม้อ ตามด้วยเห็ดหอม ผงพะโล้ ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ และซีอิ๊วดำหวาน 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
- รอให้น้ำเดือดแล้วจึงใส่เนื้อหมูและเต้าหู้ลงไปต้มประมาณ 15-20 นาที เมื่อครบเวลาแล้วปิดเตา แล้วยกหม้อลงเพื่อกรองส่วนผสมแยกกับน้ำผ่านกระชอน
- เทส่วนน้ำที่แยกไว้ใส่กลับลงไปในหม้อสำหรับต้มใหม่ โดยใช้ไฟปานกลางเช่นเดิม ปรุงรสเพิ่มเติมด้วยน้ำตาลส่วนที่เหลือ ตามด้วยน้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นคนส่วนผสมให้เข้ากัน
- ต้มน้ำจนกว่าจะเดือดแล้วค่อยใส่เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำมะขามเปียกอีก 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ขั้นตอนนี้ให้ใส่แป้งข้าวโพดที่ผสมกับน้ำเรียบร้อยแล้วลงไปคนให้เข้ากับส่วนผสมในหม้อ คนจนกว่าส่วนผสมเข้มข้นมากขึ้น สังเกตลักษณะน้ำราดที่เริ่มหนืดถือว่าใช้ได้ จากนั้นก็ปิดเตาและยกลงมาพักไว้ได้เลย
วิธีการทำปอเปี๊ยะสด
- เริ่มจากการทำไข่ฝอยกันก่อน โดยให้ตั้งกระทะด้วยไฟปานกลาง เทน้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย เกลี่ยน้ำมันให้ทั่ว รอจนน้ำมันร้อนจึงเทไข่ที่ตอกและตีใส่ถ้วยแบบไม่ปรุงรสลงไปกลิ้งเป็นแผ่นบาง ๆ ให้ทั่วกระทะ พลิกด้านให้ไข่สุกทั้งสองด้าน สังเกตเมื่อไข่เริ่มแห้งให้ร่อนและตักขึ้นมาพักไว้ให้เย็น จากนั้นม้วนเป็นโรลแล้วใช้มีดหั่นเป็นฝอยเส้นบาง ๆ
- ใช้กระทะใบเดิมทอดกุนเชียงให้สุก โดยใส่น้ำมันเพิ่มลงไปเล็กน้อย สังเกตเมื่อผิวกุนเชียงเริ่มตึงก็ตักขึ้นมาพักไว้ได้เลย หลังจากนั้นให้หั่นกุนเชียงโดยหั่นเป็นแถวตามยาว แล้วหั่นครึ่งอีกที
- ขั้นตอนต่อไปหันมาเตรียมเต้าหู้แข็ง โดยหั่นเป็นแถวตามยาว ความยาวประมาณ 2 เซนติเมตร จากนั้นนำลงไปทอดในกระทะจนผิวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อน ตักขึ้นมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
- หันมาเตรียมส่วนผสมที่เป็นผักกันบ้าง อย่างแรกให้นำถั่วงอกไปลวกในน้ำเดือดแล้วตักขึ้นมาน็อคในน้ำเย็น เพื่อให้ได้สัมผัสที่กรอบ ส่วนแตงร้านให้หั่นตามยาวแล้วหั่นครึ่งอีกทีเหมือนกับกุนเชียง โดยต้องเอาไส้แตงร้านออกให้หมด
- เตรียมห่อปอเปี๊ยะ โดยการนำแผ่นปอเปี๊ยะสดมาวาง ตามด้วยกุนเชียงและแตงร้านอย่างละ 1 เส้น ต่อด้วยเห็ดหอม เต้าหู้ หมูสันนอกที่ต้มไว้จากการทำน้ำราด และไข่ฝอย แล้วเริ่มห่อ
- เตรียมจัดจานเสิร์ฟ โดยหั่นปอเปี๊ยะเป็นชิ้นพอดีคำ เตรียมน้ำส้มใส่ถ้วยตามด้วยพริกซอยใส่ลงไป ราดปอเปี๊ยะด้วยน้ำราด จากนั้นนำไข่ฝอยและพริกชี้ฟ้าแดงที่หั่นเตรียมไว้มาโรยหน้า
บทสรุป สูตรปอเปี๊ยะสดแสนอร่อย จดสูตรไปทำตามได้ หรือจะทำขายก็ดีต่อใจ สร้างรายได้จากเมนูที่ชอบ
สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีการทำเมนูปอเปี๊ยะสดอยู่นั้น สามารถเข้ามาหยิบเอาสูตรเด็ดความอร่อยที่เรานำมาฝากกันในบทความนี้ได้เลย รับรองว่าจะได้รสชาติที่อร่อย กลมกล่อม ทานแล้วติดใจ นอกจากจะทำทานเองง่าย ๆ ได้ที่บ้านแล้ว ยังสามารถนำสูตรปอเปี๊ยะสดไปต่อยอดเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับคุณได้อีกด้วย
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace
