สาเก เป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีลักษณะของผลและผิวคล้ายกับขนุน เพียงแต่จะมีขนาดที่เล็กกว่า ดูกลมกว่าด้วย เมื่อผ่าดูเนื้อข้างในจะพบเนื้อสีขาวสวย นิยมนำมาทำเป็นขนมหวาน เชื่อมจนเนื้อเป็นสีเหลืองทอง รสชาติหวานฉ่ำ กลิ่นหอม เนื้อนุ่มกำลังดีหรือจะนำไปทอดให้กรอบเป็นอาหารทานเล่นระหว่างวัน ก็อร่อยไม่แพ้กัน นอกจากความอร่อยที่ได้เมื่อนำมาประกอบอาหารแล้ว ผลไม้ชนิดนี้ยังอัดแน่นไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ รวมถึงสรรพคุณทางยามากมาย แถมยังนำมาใช้ได้ตั้งแต่ราก ลำต้น ยางใบ และผล เรียกได้ว่าประโยชน์ครบ จบในต้นเดียว วันนี้ FoodSpace จะพาไปเรียนรู้ถึงคุณค่าที่จะได้รับจากการทานและขั้นตอนการทำเมนูยอดฮิต เพื่อให้เข้าถึงเมนูที่มีประโยชน์ได้ถึงเตาในห้องครัว
คุณประโยชน์ของสาเก หนึ่งในผลไม้ที่ไม่ได้มีดีแค่รสอร่อย แต่ให้คุณค่าทางโภชนาการมากกว่าที่คิด
สาเก เป็นมากกว่าอาหาร เพราะนี่คือผลไม้ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย หากได้ทานเข้าไปแล้วจะมีส่วนช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ พลอยช่วยให้ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจตามไปด้วย แถมมีคุณสมบัติในการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เช่นกัน สามารถรักษาโรคเบาหวานเทียบเท่ายาบางตัวเลยทีเดียว ความพิเศษอีกอย่างคือ ความสามารถในการลดความดันโลหิต แต่ต้องเป็นการทานในประมาณที่เหมาะสม เพราะอาจเกิดความเสี่ยงทำให้ความดันต่ำกว่าปกติได้เช่นกัน สารสกัดจากผลไม้ชนิดนี้มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีส่วนช่วยในการยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเซลล์ รวมถึงยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เหล่านั้นที่จะพัฒนาไปเป็นมะเร็ง นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูสดใสอ่อนวัยได้อีกด้วย และแน่นอนว่าอาหารทุกชนิดจะมีประโยชน์สูงสุดก็ต่อเมื่อร่างกายได้รับในปริมาณที่พอดีและเพียงพอ สุดท้ายผู้ที่ตั้งครรภ์ ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ ผู้ที่มีอาหารแพ้กล้วยหรือไทรย้อย และผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการมีเลือดออกควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทนี้
แชร์สูตรเมนูอาหารจากสาเก ขนมหวานที่ใครหลายคนโปรดปราน จนอยากลองทำด้วยตัวเอง
วัตถุดิบในการทำ
– ผลที่เป็นสีเขียวยังไม่สุกเหลือง
– น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม
– เกลือ 1 ช้อนชา
– ใบเตยหรือกลิ่นใบเตย
ขั้นตอนในการทำ
– นำภาชนะมาใส่น้ำสะอาดแล้วผสมกับน้ำมะนาวครึ่งหนึ่ง โดยแบ่งออกเป็นภาชนะ 2 ใบ สำหรับปอกเปลือกและแช่เนื้อเพื่อไม่ให้เนื้อกลายเป็นสีดำ โดยก่อนปอกเปลือกต้องล้างผลให้สะอาดก่อน
– นำเนื้อที่แช่น้ำไว้มาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เอาแกนกลางออก แต่ไม่ต้องเอาออกหมด เพื่อให้ตอนเชื่อมเนื้อยังเกาะติดกันอยู่ เสร็จสิ้นขั้นตอนนี้ให้แช่น้ำต่ออีก 15 นาที
– ตั้งหม้อใส่น้ำลงไป ต้มน้ำให้เดือดแล้วเติมน้ำตาลลงไป ตามด้วยใบเตยเพิ่มความหอม ปิดท้ายด้วยเกลือ รอให้ส่วนผสมทุกอย่างละลายดี แล้วค่อยปรับไฟให้เบาลง
– ขั้นตอนต่อไปให้นำเนื้อสาเกที่แช่เตรียมไว้ไปล้างน้ำให้สะอาดอีกครั้ง ใส่ลงในหม้อน้ำเชื่อม แล้วรอให้เนื้อสุกกำลังดี โดยต้องคอยกลับด้านให้เนื้อสุกทั่วถึง จึงค่อยใส่นำมะนาวลงไป เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟ