หากพูดถึงเมนูส้มตำ ตำหลวงพระบาง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูน้องใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม นอกเหนือจากเมนูส้มตำพื้นฐานอื่น ๆ อย่าง ตำไทย ตำลาว ตำปู ตำซั่ว ตำป่า และอีกมากมาย เมนูส้มตำเมนูนี้มีเอกลักษณ์อยู่ที่เส้นมะละกอ ที่จะมีลักษณะเป็นเส้นแบนยาว มีต้นกำเนิดมาจากฝั่งประเทศลาว เมื่อรวมกับเครื่องปรุงพื้นฐานอื่น ๆ ทั้งปลาร้า พริก กระเทียม กะปิ น้ำตาล มะนาว มะเขือเทศ ทำให้เกิดรสสัมผัสที่แปลกใหม่ที่หลายคนไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน แต่ก็ยังได้ความนัวของเมนูส้มทำที่เป็นเอกลักษณ์อยู่ตามเดิม วันนี้เราจะพาทุกคนไปสัมผัสกับเมนูส้มตำที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศลาวเมนูนี้กัน อีกทั้งยังมีสูตรเด็ดมาให้ทุกคนได้ลองเอาไปทำตามกันอีกด้วย รับรองว่าแซ่บนัว ถึงใจอย่างแน่นอน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
แนะนำประโยชน์จากมะละกอดิบ วัตถุดิบหลักในตำหลวงพระบาง
แน่นอนว่าเมนูส้มตำน้องใหม่มาแรงอย่าง ตำหลวงพระบาง ต้องมีมะละกอเป็นวัตถุดิบหลัก ที่จะมีลักษณะเป็นแผ่นบาง ๆ แตกต่างจากเมนูส้มตำแบบอื่น ๆ ที่ใช้เป็นมะละกอสับ แต่ถึงอย่างนั้น ตำหลวงพระบางก็ยังได้คุณค่าทางอาหารจากมะละกอไม่แพ้เมนูอื่นอย่างแน่นอน อีกทั้งมะละกอยังหาซื้อได้ง่ายและมีราคาที่ถูกอีกด้วย ทำให้มะละกอกลายเป็นวัตถุดิบหลักของเมนูอื่น ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน
มะละกอดิบสามารถนำไปประกอบอาหารได้อีกหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นแกงส้ม ผัดมะละกอใส่ไข่ หรือจะนำมาต้มทานคู่กับน้ำพริกก็อร่อยไปอีกแบบ นอกจากนี้ยังสามารถนำมาทำเป็นชาดื่มได้เช่นกัน ซึ่งก็มีสรรพคุณช่วยให้นอนหลับสบายได้นั่นเอง
ในมะละกอดิบจะมีสารเพปซิน ซึ่งเป็นตัวช่วยย่อยโปรตีนและไขมัน มีส่วนช่วยในการชะล้างลำไส้ใหญ่และลำไส้เล็ก ส่งผลต่อเนื่องให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อร่างกายในระยะยาว เนื่องจากสามารถชะล้างสารตกค้างที่อยู่ในร่างกายได้
ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่เราได้กล่าวไป การทานมะละกอดิบซึ่งถือว่าเป็นผลไม้พื้นบ้านที่หาได้ทั่วไปนั้น จะช่วยให้ประหยัดเงินและยังได้คุณค่าทางอาหารไม่แพ้ผลไม้นำเข้าราคาแพงชนิดอื่น ๆ
วิธีการทำตำหลวงพระบาง ใคร ๆ ก็ทำได้ ไม่ยากอย่างที่คิด
สำหรับใครที่ชื่นชอบอาหารรสแซ่บ ครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม และเผ็ด ต้องไม่พลาดเข้ามาจดสูตรเด็ดความอร่อยของตำหลวงพระบาง หนึ่งในเมนูทำง่ายที่สามารถทำทานเองได้ที่บ้าน วิธีการทำตำหลวงพระบางและส่วนผสมสำหรับเมนูนี้จะมีอะไรบ้าง ตามเราไปดูกันได้เลย
ส่วนผสม
- มะละกอดิบ ฝานบางเป็นแผ่นยาว
- แคปหมู ตามชอบ
- พริก 5-6 เม็ด
- กระเทียม 1 หัว
- กะปิ ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลอ้อย 3/4 ช้อนโต๊ะ
- มะนาว 1-2 ผล
- มะเขือเทศ หรือมะเขือเปราะ ตามชอบ
วิธีการทำ
- นำพริกและกระเทียมมาโขลกให้แหลก จากนั้นใส่น้ำตาลอ้อยและกะปิลงไป โขลกจนส่วนผสมละลายเข้ากัน หากที่บ้านไม่มีน้ำตาลอ้อยก็สามารถใช้น้ำตาลมะพร้าวแทนได้เช่นกัน ส่วนกะปิก็สามารถใส่ตามระดับความเค็มที่ต้องการได้เลย เพราะสูตรนี้จะไม่มีการใส่น้ำปลาเพิ่ม
- เมื่อส่วนผสมในครกละลายเข้ากันดีแล้ว ให้บีบมะนาว ตามด้วยมะเขือเทศ โขลกต่อพอให้แหลกเล็กน้อย
- จากนั้นใส่เส้นมะละกอลงไปโขลกเบา ๆ คลุกเคล้าให้เข้ากันดีแล้วจึงใส่แคปหมูลงในตำมะละกอ คนเบา ๆ อีกครั้งก็ตักใส่จานได้เลย ก่อนเสิร์ฟแนมด้วยแคปหมูเพิ่มเข้าไป ทานคู่กับข้าวเหนียวและผักสด รับรองอร่อยถูกใจแน่นอน
บอกต่อประโยชน์ของมะละกอสุก ทานแล้วดีต่อร่างกายอย่างไร
แน่นอนว่าวัตถุดิบหลักของตำหลวงพระบางคือเส้นมะละกอดิบ แต่นอกจะมะละกอจะทานดิบได้แล้ว ยังเป็นผลไม้ที่นิยมทานแบบสุกด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ให้ประโยชน์ไม่แพ้แบบดิบ ซึ่งแบบสุกนั้นมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยบรรเทาโรคได้หลายโรค
เป็นแหล่งรวมของวิตามินและแร่ธาตุหลายอย่าง อาทิเช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี ธาตุเหล็ก แคลเซียม โซเดียม ฟอสฟอรัส และโปรตีน ไม่พอแต่เพียงเท่านี้ เพราะยังมีไขมันอิ่มตัว คอเลสเตอรอล และเกลือโซเดียมในปริมาณที่ต่ำอีกด้วย
นอกจากนี้ มะละกอยังเป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง แต่พลังงานที่ได้จากมะละกอ ส่วนใหญ่จะถูกนำเข้าสู่ร่างกายในรูปแบบคาร์โบไฮเดรต ดังนั้นมะละกอสุกจึงอาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมปริมาณแป้งและน้ำตาล สีแดงอมส้มของมะละกอสุกมีสารไลโคปีน ที่พบได้เช่นเดียวกันกับในมะเขือเทศ
มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก และยังเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงหลอดเลือดและหัวใจ ป้องกันมะเร็งลำไส้ โดยเส้นใยจากมะละกอสามารถจับกับสารพิษที่ก่อให้เกิดมะเร็งในลำไส้ใหญ่ แล้วนำส่งออกจากร่างกายด้วยวิธีที่ทำให้เกิดการสัมผัสกับเซลล์ลำไส้ใหญ่น้อยที่สุด
นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยลดอาการอักเสบ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคถุงลมโป่งพองและมะเร็งปอดได้ดี ที่สำคัญสารต่าง ๆ ที่อยู่ในมะละกอได้ถูกนำไปวิจัยเพื่อทำเป็นยารักษาโรคและใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในหลายด้านเลยทีเดียว
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace