อะโวคาโด ไม่เพียงแต่จะเป็นผลไม้หน้าหนาวที่หลายคนชื่นชอบในรสชาติหวานมันเท่านั้น แต่ยังเป็นผลไม้ไขมันสูง ซึ่งอุดมไปด้วยไขมันดีและยังมีประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายอีกหลากหลายด้าน จึงได้รับความนิยมในหมู่คนรักสุขภาพเป็นอย่างมาก เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะเคยได้ยินเพียงแค่ชื่อแต่ยังไม่รู้จักกับผลไม้มากประโยชน์ชนิดนี้ดีพอ ในวันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับผลไม้ที่มีต้นกำเนิดในประเทศเม็กซิโกชนิดนี้กัน รวมถึงวิธีการและข้อควรระวังในการทาน เรื่องราวเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร ไปติดตามกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ประโยชน์จากการทานอะโวคาโด ทานง่าย ดีต่อสุขภาพ
อย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้นว่า อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยกรดไขมันดี ซึ่งสามารถช่วยลดระดับไขมันเลวได้ในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้โดยประโยชน์ของอะโวคาโดก็มีหลายด้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นช่วยควบคุมและลดระดับคอเลสเตอรอล มีส่วนช่วยบำรุงหัวใจ ลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดโรคเกี่ยวกับหัวใจ
ทั้งนี้ยังส่งผลต่อเนื่องไปถึงการลดความดันโลหิต ลดอาการอักเสบ มีวิตามินอีที่ดีต่อผิว ช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย เป็นแหล่งวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา มาพร้อมกับวิตามินบี ลดอาการเหน็บชา ป้องกันการเกิดโรคปากนกกระจอก และยังเต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด
มีสารต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็ง นอกจากจากนี้ยังมีกากใยสูง ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญอะโวคาโดผลไม้ประจำฤดูหนาวชนิดนี้ ยังมีส่วนสำคัญในการลดน้ำหนักด้วยเช่นกัน
แนะนำข้อควรระวังในการทานอะโวคาโด
แม้ว่าอะโวคาโดจะเป็นผลไม้ตามฤดูกาลที่อุดมไปด้วยไขมันดี และมีประโยชน์อื่น ๆ ที่หลากหลายอย่างที่เรากล่าวไปข้างต้น แต่ก็อาจเป็นอันตรายกับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว ทั้งในผู้ป่วยโรคไขมันในเส้นเลือดสูง โรคความดันสูง ตลอดจนโรคเกี่ยวกับหัวใจ
ดังนั้นจึงควรทานในปริมาณที่เหมาะสม หากทานมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมา หรืออาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ แถมยังทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย ซึ่งปริมาณที่แนะนำคือควรทานไม่เกินครึ่งลูกต่อวัน
แนะนำ 3 สูตรการทำเมนูอาหารแสนอร่อยจากอะโวคาโด มือใหม่ก็ทำได้
อะโวคาโด เป็นผลไม้ที่สามารถทานได้หลากหลายรูปแบบ โดยวิธีทานอะโวคาโดที่นิยมก็จะมีทั้งการรับประทานสด นำไปประกอบอาหาร หรือจะทำเป็นเครื่องดื่มก็ได้เช่นกัน วันนี้เราจึงไม่พลาดที่จะรวบรวมเอาสูตรอาหารแสนอร่อยที่ทำจากผลไม้ชนิดนี้มาฝากกัน รับรองว่าสามารถทำตามได้ง่าย ๆ ไม่ว่าใครก็ทำได้ แต่จะมีเมนูไหนบ้าง ตามไปดูพร้อมกันได้เลย
1.ซุปอะโวคาโดเย็น
ส่วนผสม
เนื้ออะโวคาโดสุกหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 2-3 ถ้วย
หอมหัวใหญ่หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/2 หัว
อัลมอนด์อบ 1/4 ถ้วย
น้ำซุปผักออร์แกนิก 1/2-1 ถ้วย
น้ำส้มสายชูไวน์ขาว 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือทะเลเล็กน้อย
อะโวคาโด ใบผักชี
มะเขือเทศสำหรับตกแต่ง หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า
วิธีการทำ
เริ่มจากการนำเนื้ออะโวคาโดมาปั่นรวมกับน้ำซุปผัก อัลมอนด์ หอมหัวใหญ่ น้ำส้มสายชู และเกลือ ปั่นจนได้เนื้อที่เนียนละเอียด จากนั้นนำเข้าแช่ตู้เย็นเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อครบเวลาแล้วให้นำออกมาเทใส่แก้ว หรือถ้วยที่ต้องการเสิร์ฟ โรยหน้าด้วยอะโวคาโด มะเขือเทศ ผักชี หรือท็อปปิ้งที่ชื่นชอบได้เลย
2.แซนวิชอะโวคาโดครีมชีส
ส่วนผสม
ขนมปังชนิดที่ชื่นชอบ
ครีมชีสหรือน้ำสลัด
อะโวคาโด 1 ลูก
เลมอน ครึ่งซีก
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ปริมาณตามชอบ
พริกไทย
วิธีการทำ
เริ่มด้วยการปิ้งขนมปังให้ร้อน โดยทานเนยและนำไปจี่กับกระทะ เมื่อได้ความกรอบที่ต้องการแล้ว ให้ใช้ครีมชีสหรือน้ำสลัดทาให้ทั่วบนแผ่นขนมปังปิ้ง จากนั้นนำอะโวคาโดมาหั่นเป็นชิ้นขนาดกำลังดี วางเรียงบนแผ่นขนมปังให้สวยงาม แล้วหั่นเลมอน 1 ซีก บีบตามลงไป โรยหน้าด้วยพริกและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่บดหยาบ ๆ เพียงเท่านี้ก็ได้เมนูแสนอร่อยพร้อมเสิร์ฟสำหรับมื้อเช้าแล้ว
3.น้ำสลัดอะโวคาโด
ส่วนผสม
เนื้ออะโวคาโดสุก 1 ผล
น้ำส้มสายชูหมัก 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
พริกไทยขาวป่น 1/2 ช้อนชา
ผักสลัดตามชอบ
วิธีการทำ
ขั้นตอนการทำน้ำสลัดในความจริงแล้วไม่ได้ยุ่งยากนัก เพียงแค่นำน้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย และเกลือมาตั้งบนไฟโดยใช้ไฟอ่อน ๆ แล้วคนให้ส่วนผสมละลายเข้ากันดี ยกลงจากเตาแล้วพักไว้ให้เย็นตัวลง ระหว่างนั้นให้นำอะโวคาโดใส่ลงในโถและปั่นจนได้เนื้อเนียนละเอียด จากนั้นค่อย ๆ ใส่ส่วนผสมน้ำส้มสายชูที่เตรียมไว้ตามลงไป ปั่นให้ส่วนผสมเข้ากันอีกครั้ง เสร็จแล้ว ด้วยตามด้วยพริกไทยป่นแล้วคนให้ทั่ว เสิร์ฟคู่กับผักสลัดที่ชอบได้เลย
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace