ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหนของปี ในประเทศไทย “ส้ม” เป็นผลไม้ที่หาทานได้ง่ายตลอดทั้งปี แต่กลับไม่ได้สังเกตว่ารสชาติของผลไม้ชนิดนี้ในแต่ละช่วงของปีก็จะแตกต่างกันออกไป นั่นก็เป็นเพราะว่าผลไม้ชนิดนี้เป็นผลไม้หน้าหนาว หากซื้อทานตามฤดูกาลที่ถูกต้องก็จะได้รสชาติที่หวานฉ่ำ จะทานเปล่า ๆ ก็อร่อย หรือจะนำไปประกอบอาหารก็ดีต่อใจไม่แพ้กัน นอกจากส้มจะเป็นผลไม้ที่ถูกใจใครหลายคนแล้ว ยังเต็มไปด้วยคุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย แต่จะดีอย่างไร ตามเราไปดูพร้อมกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับผลไม่ยอดฮิตอย่าง “ส้ม” ทานแล้วดีต่อร่างกาย
ส้ม เป็นผลไม้รสเปรี้ยวอมหวานที่ให้คุณค่าทางอาหารสูงมาก มีประโยชน์ต่อร่างกายหลากหลาย ทั้งเป็นผลไม้ที่ช่วยแก้อาการท้องผูก ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย มีส่วนช่วยลดความดันได้ดี ช่วยปรับสมดุลระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ บำรุงผิวและสายตา ส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของระบบขับถ่าย ไม่มีคอเลสเตอรอล อุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเกี่ยวกับหัวใจ โรคนิ่วในไต โรคสโตรก ที่สำคัญยังช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีการนำส้มไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติในการดับกลิ่นอาหาร นำไปใช้เป็นสารแต่งกลิ่นในอาหารชนิดต่าง ๆ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ไล่ยุงและแมลงได้ด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นผลไม้ตามฤดูกาลที่ควรมีติดบ้านเอาไว้ รับรองว่าอร่อย แถมได้ประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด แต่หากกำลังเบื่อการทานส้มเปล่า ๆ อยู่นั้น ตามเราเข้าครัวไปรังสรรค์เมนูอาหารที่ทำมาจากส้ม มีทั้งคาว หวานและเครื่องดื่ม รับรองจะติดใจ
บอกต่อ 3 สูตรขนมและเครื่องดื่มจากส้ม ทำตามง่าย ไม่จำเจ
ส้ม เป็นผลไม้ประจำฤดูหนาวที่สามารถหาทานได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป แต่เมื่อมากเกินไป หลายคนอาจเบื่อการทานผลไม้แบบเดิม ๆ วันนี้เราจึงรวบรวมเอาสูตรขนมและเครื่องดื่มที่ทำจากส้มมาฝากกัน รับรองเลยว่าแต่ละเมนูสามารถทำตามได้ง่าย ได้รสชาติทั้งเปรี้ยวและหวาน อร่อยถูกใจ แถมได้ประโยชน์ที่หลากหลายแน่นอน จะมีเมนูไหนน่าสนใจบ้าง ไปติดตามพร้อมกันได้เลย
1.กาแฟส้ม
ส่วนผสม
น้ำกาแฟดำ 1-2 ช็อต, น้ำส้ม 100 มิลลิลิตร หรือ 3.5 ออนซ์, น้ำแข็ง, ไซรัปกลิ่นมะลิ 20 กรัม หรือ 0.7 ออนซ์
วิธีการทำ
เริ่มต้นขั้นตอนแรกให้ชงกาแฟเตรียมไว้ เติมน้ำแข็งลงในแก้ว แล้วจึงเทไซรัปลงไป ตามด้วยน้ำส้ม และกาแฟที่ชงเตรียมไว้ จากนั้นตกแต่งให้สวยงามด้วยส้มฝานวางตรงขอบแก้ว เพียงเท่านี้ก็ได้เมนูเครื่องดื่มแสนอร่อย เติมความสดชื่นระหว่างวันง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน
2.แยมส้ม
ส่วนผสม
ส้ม 8 ลูก, น้ำตาลทราย, เกลือ, มะนาว 1 ลูก
วิธีการทำ
เริ่มด้วยการปอกเปลือกส้มออกจนหมด โดยให้ปอกเอาเส้นใยและผิวขาว ๆ ออกจากเนื้อส้มให้หมด จากนั้นนำเปลือกส้มมาซอยเป็นเส้นบาง ๆ ส่วนของเนื้อส้มให้หั่นตามกลีบ ขั้นตอนต่อไปให้เตรียมตั้งหม้อ ใช้ไฟอ่อนเคี่ยวส้มกับน้ำตาลทราย เมื่อได้ความข้นตามที่ต้องการแล้วปิดเตา ใส่ผิวส้มลงไปพอประมาณ ตามด้วยน้ำมะนาว คนส่วนผสมในหม้อให้เข้ากัน จากนั้นรอจนส่วนผสมเย็นตัวลงจึงตัดใส่ภาชนะขวดโหลที่ผ่านการฆ่าเชื้อในน้ำร้อนเรียบร้อยแล้ว ปิดฝาให้สนิทแล้วเก็บในตู้เย็น
3.ส้มฉุน
ส่วนผสมน้ำเชื่อม
น้ำลอยดอกมะลิ 4 ถ้วย, น้ำตาลทราย 1+1/2 ถ้วย, น้ำใบเตย 1/4 ถ้วย, ส้มซ่าผลเล็กหรือมะกรูด 2 ผล, ดอกเกลือประมาณ 1/2 ช้อนชา หรือเกลือป่น 1/4 ช้อนชา
ส่วนผสมส้มฉุน
ส้มแช่อิ่ม ใช้แต่เนื้อ 1 กระปุก, เงาะกระป๋อง ใช้แต่เนื้อ 1 กระป๋อง, ลำไย ใช้แต่เนื้อ 1 กระป๋อง, ลิ้นจี่ ใช้แต่เนื้อ 1 กระป๋อง, มะม่วงน้ำดอกไม้ดิบซอยเป็นเส้นละเอียดปริมาณเท่าขิง, ขิงสดซอยเป็นเส้นละเอียด 1 แง่งย่อม, หอมแดงเจียว
วิธีการทำ
เมนูขนมหวานโบราณที่หาทานได้ยากในปัจจุบัน แต่สามารถทำเองได้ที่บ้าน ให้เริ่มจากการทำน้ำเชื่อม โดยผสมน้ำลอยดอกมะลิ น้ำตาล และน้ำใบเตย ใส่ลงในหม้อแล้วตั้งไฟให้เดือดพอประมาณ เมื่อน้ำตาลละลายจนหมดแล้วจึงปิดเตา จากนั้นฝานผิวส้มซ่าลงไปในน้ำเชื่อมที่ยังร้อน ๆ อยู่ หรือใช้ผิวมะกรูดก็ได้ แต่ให้เลือกใช้แค่เปลือกส่วนเขียว ๆ ตามด้วยดอกเกลือ คนส่วนผสมให้เข้ากันดี จากนั้นก็ยกลงจากเตาแล้วพักส่วนผสมน้ำเชื่อมให้เย็นตัวลง
เมื่อน้ำเชื่อมเย็นแล้ว ให้ใส่น้ำส้มซ่าและน้ำมะนาวลงไป แต่หากใช้เปลือกมะกรูดก็ให้ใส่น้ำมะกรูดลงไป ค่อย ๆ ชิมจนได้รสชาติที่ชอบ จากนั้นนำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง ในส่วนของวิธีเสิร์ฟก็ทำได้ไม่ยาก ให้นำผลไม้ที่เตรียมไว้อย่างเงาะ ส้มแช่อิ่ม ลิ้นจี่ และลำไยที่เตรียมไว้ใส่ลงในถ้วยที่จะเสิร์ฟ แล้วตักน้ำเชื่อมตามลงไป โรยหน้าด้วยขิงและมะม่วงเล็กน้อย ปิดท้ายด้วยหอมเจียว ใส่น้ำแข็งทุบละเอียดก็เป็นอันเสร็จ
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace