เมื่อหน้าหนาววนกลับมาทีไร สิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือผลไม้หน้าหนาว โดยเฉพาะ กีวี ผลไม้ที่โดดเด่นด้วยรสชาติเปรี้ยวอมหวาน อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชิด ให้ประโยชน์ที่ดีต่อร่างกาย แถมดีต่อใจ ผลไม้ชนิดนี้เป็นผลไม้ประจำฤดูหนาวที่หากทานตรงตามฤดูกาล รับรองได้ว่าคุณจะได้ทานผลไม้ที่มีคุณภาพสูงกว่าการทานนอกฤดูกาล แถมการซื้อผลไม้ที่ตรงตามฤดูกาลก็ช่วยให้ทีมพ่อบ้านและแม่บ้านประหยัดเงินไปได้อีกเยอะ วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับผลไม้ประจำฤดูหนาวชนิดนี้กัน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
พาไปทำความรู้จักกีวี พร้อมแนะนำที่มาที่ไปของเมนูของหวานยอดฮิต ถิ่นกำเนิดของรสชาติแสนอร่อย
หากจะถามหาต้นกำเนิดของกีวีในปัจจุบันก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดสักเท่าไร เพราะยังไม่มีการยืนยันและบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร มีเพียงแต่การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เท่านั้น ซึ่งมีการระบุเกี่ยวกับการเดินทางของเมล็ดพันธุ์ของผลไม้ชนิดนี้จากประเทศจีน ไปยังประเทศนิวซีแลนด์ในช่วงศตวรรษที่ 20 โดยครูใหญ่ของโรงเรียนหญิงล้วนท่านหนึ่ง เมื่อมอบให้กับเกษตรกรจึงนำไปปลูกในฟาร์มและออกผลครั้งแรกในปี 1910 ในสมัยนั้นเรียกกันว่า “หมีเหาเถา” หรือ “กูสเบอร์รี่จีน” จนท้ายที่สุดผลไม้นำเข้าชนิดนี้ก็ถูกเปลี่ยนมาเรียกด้วยชื่อสั้น ๆ ว่า กีวี อย่างเช่นในปัจจุบัน
แนะนำประโยชน์และข้อควรระวังในการกินกีวี ดีต่อสุขภาพอย่างไรหากเลือกกินในปริมาณที่เหมาะสม
กีวี ผลไม้ที่มีข้อดีมากมาย ซึ่งข้อเสียก็มีให้ได้เห็นเช่นกัน แต่ในที่นี้เราจะกล่าวถึงประโยชน์ของกีวีกันก่อน แน่นอนว่าผลไม้ชนิดนี้อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารมากมาย ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายในหลาย ๆ ด้าน มีส่วนช่วยในการหนอนหลับ ช่วยป้องกันอาการหวัดและเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ ช่วยบำรุงรักษาหัวใจ เสริมประสิทธิภาพการทำงานของลำไส้ และที่สำคัญช่วยป้องกันมะเร็งได้ด้วย
นอกจากนี้ก็ยังมีข้อควรระวังในการทานผลไม้ตามฤดูกาลในช่วงหน้าหนาวปีนี้มาฝากกันด้วย เพราะถึงแม้จะมีประโยชน์หลากหลาย แต่ก็ควรทานในปริมาณที่เหมาะสมด้วย โดยกลุ่มที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษได้แก่ ผู้ป่วยที่มีเลือดออกง่าย ผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด หญิงตั้งครรภ์และผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร และผู้ที่มีอาการแพ้ นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นปริมาณที่เหมาะสมในการทาน อายุ รวมถึงโรคประจำตัว เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง
แบ่งปัน 3 สูตรการทำเมนูกีวี จัดมาให้ทั้งขนมหวานและเครื่องดื่ม อร่อยดีต่อใจ ทำง่าย ใครก็ทำได้สบาย
1.แยมกีวี
ส่วนผสม
กีวีเขียวหรือกีวีเหลืองทอง หั่นชิ้น 6 ลูก, สตรอว์เบอร์รีสด หั่นชิ้น 2/3 ถ้วย, ราสเบอร์รี 2/3 ถ้วย, น้ำเลมอน 2 ลูก, น้ำผึ้ง 7 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลทราย 1 ถ้วย, ขิงฝอย 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ
เริ่มด้วยการใส่เนื้อกีวี สตรอว์เบอร์รี และราสเบอร์รีลงไปในชามผสม แล้วค่อยเติมน้ำเลมอน น้ำผึ้ง น้ำตาลทราย และขิงลงไปคนผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำพลาสติกถนอมอาหารมาคลุมห่อไว้ นำไปแล่ตู้เย็นทิ้งไว้หนึ่งคืน เมื่อครบเวลาแล้ว ให้นำส่วนผสมที่เตรียมไว้ออกจากตู้เย็น เทลงในกระทะ และเปิดไฟเคี่ยวเป็นเวลาประมาณ 6-10 นาที หรือคนจนกว่าเนื้อแยมจะมีลักษณะเหนียวและเข้มข้น โดยก่อนที่จะครบเวลา 2 นาทีสุดท้าย ให้บดเนื้อผลไม้ที่อยู่ในส่วนผสมให้ละเอียด ตักขึ้นจากเตาแล้วพักไว้ให้เย็นตัวลง ปิดท้ายด้วยการบรรจุลงในภาชนะขวดโหลแก้วที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยน้ำร้อนมาเรียบร้อยแล้ว ปิดฝาให้สนิทแล้วเก็บในตู้เย็น
2.ไอศกรีมแท่งกีวี
ส่วนผสม
น้ำ 1 ถ้วย, น้ำตาลทราย 1 ถ้วย, กีวี แป้งสาลีทำเค้ก 1+1/3 ถ้วย, 4 ลูก, น้ำมะนาว 1/2 ถ้วย, น้ำต้มสุก 3/4 ถ้วย, กีวีที่ฝานเป็นชิ้น 1 ลูก
วิธีการทำ
เริ่มต้นขั้นตอนแรกด้วยการตั้งหม้อเตรียมต้มน้ำกับน้ำตาลทราย คนส่วนผสมให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายหมด เมื่อมีความหนืดกลายเป็นน้ำเชื่อมแล้ว ให้ปิดไฟแล้วยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนความร้อนคลายตัว ระหว่างนั้นหั่นเนื้อกีวีสดเป็นชิ้นเล็ก ๆ เทลงในเครื่องปั่น จากนั้นปั่นจนเนื้อผลไม้เนียนละเอียด ได้ที่แล้วเทใส่อ่างผสม เติมน้ำเชื่อมที่เตรียมไว้ ตามด้วยน้ำมะนาวและน้ำต้มสุก คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดี
ลำดับต่อไปให้เตรียมพิมพ์สำหรับทำไอศกรีมแท่ง ใส่เนื้อกีวีสดที่หั่นเป็นชิ้นขนาดกำลังดีลงไปก่อน ตามด้วยส่วนผสมน้ำกีวีที่เตรียมไป จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นในช่องแช่แข็ง เมื่อไอศกรีมเซตตัวก็สามารถนำออกมาทานได้เลย
3.สมูทตี้กีวีอะโวคาโด
ส่วนผสม
อะโวคาโด 1/2 ลูก, กีวี 2 ลูก, มะนาว 1/2 ลูก, น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ, นม 1/2 ถ้วย
วิธีการทำ
เป็นอีกเมนูที่ทำตามได้ง่ายมากถึงมากที่สุด เพราะขั้นตอนในการทำนั้นไม่มีอะไรมากมาย เพียงแค่นำอะโวคาโด กีวี น้ำมะนาว น้ำผึ้ง และนมเทใส่ร่วมกันในเครื่องปั่น จากนั้นปั่นให้ส่วนผสมทุกอย่างเนียนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่แก้วก็พร้อมเสิร์ฟ
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace