หมกหน่อไม้ เป็นเมนูอาหารอีสานพื้นบ้านของไทย เอกลักษณ์โดดเด่นอยู่ที่รสชาติความนัวและความกลมกล่อมของหน่อไม้ขูดเส้นที่นำมาคลุกเคล้ากับเครื่องแกงแล้วนำไปหมกในใบตอง กลิ่นหอมน่าทาน ได้ประโยชน์จากสมุนไพรและเป็นเมนูจากหน่อไม้ที่ให้คุณค่าทางอาหารซึ่งดีต่อร่างกายหลายด้าน ที่สำคัญยังสามารถทำตามได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น แต่ก่อนจะไปจดสูตรการทำห่อหมกหน่อไม้ที่เรานำมาฝากกันถึง 2 สูตรเด็ดในวันนี้ ตามเราไปส่องถึงประโยชน์ของ “หน่อไม้” ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของเมนูแสนอร่อยในวันนี้กันก่อน รับรองว่าคุณจะได้อะไรที่มากกว่าความอร่อยจัดจ้านตามสไตล์อาหารท้องถิ่นแน่นอน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
พาไปทำความรู้จักกับ “หน่อไม้” วัตถุดิบหลักของเมนูหมกหน่อไม้
หน่อไม้ วัตถุดิบหลักของการทำหมกหน่อไม้ เมนูอาหารพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งหน่อไม้ก็คือหน่ออ่อนของต้นไผ่ที่ไม่ว่าจะมาจากไผ่สายพันธุ์อะไรก็เรียกว่าหน่อไม้เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นหน่อไผ่บงหวาน, หน่อไผ่ตง, หน่อไผ่รวก, หน่อไผ่เหลือง, หน่อไผ่ไร่ และอื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากหมกหน่อไม้แล้ว หน่อไม้ยังนิยมนำมาทำอาหารในอีกหลายเมนู อาทิเช่น แกงเปรอะ แกงเขียวหวานใส่หน่อไม้ แกงหน่อไม้ใส่ไก่ และอื่น ๆ อีกมากมาย หรือจะเป็นการทานสดในรูปแบบที่ต้องผ่านการต้มมาก่อนก็ได้เช่นกัน อีกทั้งยังสามารถนำมาแปรรูปเพื่อเก็บรักษาเอาไว้ทานในภายหลังได้ ทั้งการดองและทำตากแห้ง
ซึ่งการทำตากแห้งนั้นจะต้องนำหน่อไม้ไปต้มจนสุก แล้วนำไปตากแดดให้แห้งแล้วนำมาบรรจุใส่ถุง สามารถเก็บเอาไว้ได้เป็นเวลานาน เมื่อต้องการนำมาประกอบอาหาร ก็เพียงแค่นำเอาหน่อไม้แห้งนั้นมาต้มเพียง 5 นาที ก็ได้จะหน่อไม้ที่พร้อมนำไปประกอบเมนูอาหารแสนอร่อย
ส่วนประโยชน์ของหน่อไม้ก็ส่งผลดีต่อร่างกายมากมายเช่นกัน เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด มีกรดอะมิโนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ฟอสฟอรัสที่ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโต ธาตุเหล็กซึ่งช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงและป้องกันการเกิดโรคโลหิตจาง สังกะสีช่วยซ่อมบำรุงเซลล์ต่าง ๆ เป็นแหล่งวิตามินซีชั้นดี มีเส้นใยอาหารมาก แถมยังมีน้ำตาลน้อย เหมาะกับการลดน้ำหนัก นอกจากนี้ยังเป็นพืชที่มีฤทธิ์เย็น ช่วยปรับสมดุลในร่างกายได้ดี
บอกต่อ 2 สูตรการทำหมกหน่อไม้แสนอร่อย
1.หมกหน่อไม้หมูสามชั้น
ส่วนผสม
หน่อไม้รวกต้ม 400 กรัม, หมูสามชั้น หั่นท่อนขนาดพอคำ 300 กรัม, เครื่องแกง 1/3 ถ้วย, ต้นหอมหั่นท่อน 1 ถ้วย, พริกอีสานบุบพอแตก 8 เม็ด, ใบแมงลัก 1 ถ้วย, ข้าวเบือโขลก 3 ช้อนโต๊ะ, น้ำปลาร้า ¼ ถ้วย, น้ำปลา 1½ ช้อนโต๊ะ, น้ำใบย่านาง (ใบย่านาง 15 ใบ ปั่นกับน้ำ 2 ถ้วย) 2 ถ้วย, ข้าวเหนียวและผักสด สำหรับจัดเสิร์ฟ
ส่วนผสมเครื่องแกง
พริกขี้หนูแห้งหั่นท่อน 4 เม็ด, หอมแดงซอย 3 หัว, กระชายปอกเปลือกซอย 1 ช้อนโต๊ะ, ตะไคร้ซอย 3 ต้น
วิธีการทำ
เริ่มต้นขั้นตอนแรกของการทำห่อหมกหน่อไม้หมูสามชั้นด้วยการทำเครื่องแกง นำพริกขี้หนู หอมแดง กระชาย และตะไคร้มาโขลกรวมกันพอหยาบ เสร็จแล้วตักใส่ถ้วยพักไว้ จากนั้นนำหน่อไม้ที่ผ่านการลวกเรียบร้อยแล้วมาขุดด้วยส้อมในแนวยาวเป็นเส้นเล็ก ๆ ตั้งหม้อเตรียมต้มน้ำบนไฟปานกลาง รอให้น้ำพอเดือดจึงใส่หน่อไม้ที่ขูดเตรียมไว้ลงไปต้มทำความสะอาด รอจนน้ำเดือดอีกครั้งจึงใช้กระชอนตักใส่หม้ออีกใบ
ขั้นตอนต่อไปให้ใส่หมูสามชั้น เครื่องแกง ต้นหอม พริกอีสานบุบ ใบแมงลัก และข้าวเบือลงในหม้อพี่พักหน่อไม้ไว้ ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้าและน้ำปลา ตามด้วยน้ำใบย่านาง แล้วคลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน
ตั้งหม้อส่วนผสมทั้งหมดบนเตาด้วยได้กลางอีกครั้ง ปิดฝาและต้มจนหมูสุกโดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นเปลี่ยนเป็นไฟอ่อนและเคี่ยวต่ออีก 20-30 นาที ระหว่างนั้นหมั่นคนไม่ให้ข้าวเบือไหม้ติดก้นหม้อ เมื่อหมูสามชั้นสุกและข้นดีแล้วให้ปิดเตา ตักหมกหน่อไม้ใส่จาน ทานคู่กับข้าวเหนียวและผักสด รับรองอร่อยลงตัว
2.หมกหน่อไม้ใส่ไก่
ส่วนผสม
หน่อไม้ต้มสุก 500 กรัม, เนื้อไก่ 250 กรัม, น้ำใบย่านาง 450 มิลลิลิตร, ต้นหอมหั่นท่อน 6 ต้น, เกลือป่น 1 ช้อนชา, ผงปรุงรสไก่ 1 ช้อนชา, ใบแมงลัก 1 ถ้วย, น้ำปลาร้า 4 ช้อนโต๊ะ, ตะไคร้ซอย 3 ต้น, พริกจินดาสด 7 เม็ด, หอมแดง 8 หัว, ข้าวเบือ 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ
ขั้นตอนการทำหมกหน่อไม้ใส่ไก่ไม่ได้ยุ่งยากไปกว่าการทำหมกหน่อไม้ใส่หมูสามชั้น เริ่มด้วยทำข้าวเบือเตรียมไว้ โดยนำข้าวเหนียวมาแช่น้ำไว้พักใหญ่ รอจนเมล็ดข้าวเหนียวนุ่มลง ตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำแล้วนำไปตำให้ละเอียด พักไว้ ขั้นตอนต่อไปให้ตั้งหม้อ เทน้ำย่านางลงไป ตามด้วยหน่อไม้ เคี่ยวส่วนผสมจนน้ำงวด จากนั้นนำตะไคร้และเกลือป่นมาโขลกให้พอแหลก แล้วใส่พริกจินดาและหอมแดง ตามด้วยข้าวเบือลงไป โขลกส่วนผสมทั้งหมดให้ละเอียด
ลำดับต่อมาให้นำพริกแกงที่โขลกไว้มาขยำให้เข้ากับเนื้อไก่ ใส่หน่อไม้ที่เคี่ยวไว้ตามลงไป ต่อด้วยต้นหอมและใบโหระพา จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลาร้าและผงปรุงรส นำส่วนผสมที่ได้มาห่อด้วยใบตองและนึ่งจนสุกโดยใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ก็พร้อมเสิร์ฟ
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace