แกงกระด้าง เมนูอาหารเหนือที่มีเอกลักษณ์แตกต่างจากแกงทั่วไป ๆ แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นแกง แต่กลับไม่มีน้ำให้ซด ทั้งยังเสิร์ฟมาในรูปแบบแกงที่ถูกตัดเป็นก้อน ๆ มีเนื้อสัมผัสนุ่มคล้ายกับเยลลี่ เพียงแต่ส่วนประกอบหลักนั้นเป็นวัตถุดิบอาหารคาวอย่าง เนื้อหมูและหนังหมูที่ปะปนกันมา เป็นเมนูในขันโตกที่ขาดไปไม่ได้เมื่อลมหนาวมาเยือน วันนี้ตามเราไปทำความรู้จักกับเมนูแกงที่มีความพิเศษนี้ จากภูมิปัญญาพื้นบ้าน สู่เมนูอาหารแปลกใหม่ พร้อมกับศึกษาวิธีทำที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูพร้อมกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
เรื่องน่ารู้ของ “แกงกระด้าง” อาหารพื้นบ้านที่นิยมทานในหน้าหนาว
“แกงกระด้าง” มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “แกงหมูด้าง” เมื่อเวลาผ่านไป หลายคนก็เรียกกันว่า “แกงหมูหนาว” เป็นเมนูอาหารพื้นเมืองที่ใช้ขาหมูมาเป็นส่วนประกอบหลัก เนื่องจากเป็นส่วนที่มีเอ็นมาก เมื่อนำมาผ่านขั้นตอนการทำแล้วจะทำให้ได้แกงที่ข้น เกาะตัวกันได้ดี และช่วยให้กระด้างได้ง่าย ซึ่งในปัจจุบันสามารถใส่ผงวุ้นเย็นลงไปเป็นตัวช่วยให้เกิดความกระด้างของแกงได้ดีขึ้น
แกงชนิดนี้เป็นแกงเหนือโบราณที่มีด้วยกัน 2 สูตร ได้แก่ แกงกระด้างแบบเชียงใหม่และแกงกระด้างแบบล้านนา โดยจะแตกต่างกันที่สีของแกงที่ได้ โดยสูตรแบบล้านนาจะมีการเติมเครื่องแกงและพริกแห้งลงไปในขณะที่ต้มขาหมู เพื่อเพิ่มสีสันให้อาหารน่าทานมากขึ้น ซึ่งในความจริงแล้วรสชาติกลับไม่ได้แตกต่างกันมากนัก หากได้ลองทานต่างก็ต้องติดใจในความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์แน่นอน
จุดเด่นของแกงที่กระด้างเกาะกันเป็นก้อนนั้น เป็นส่วนประกอบที่เต็มไปด้วยไขมันซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่ให้พลังงานสูง เหมาะกับการทำทานให้หน้าหนาว เพื่อสร้างความอบอุ่นในช่วงที่อุณหภูมิที่ลดต่ำลง ดังนั้นในอดีตแกงกระด้างจึงเป็นเมนูที่สามารถหาทานได้ในช่วงหน้าหนาวของไทยเราเท่านั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป เทคโนโลยีเกี่ยวกับอาหารก็เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
ในปัจจุบันจึงได้มีการใช้ผงวุ้นเย็นเข้ามาเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในการจับตัวกันของแกง ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ในปัจจุบันสามารถหาทานได้ในทุกฤดูกาล ที่สำคัญสามารถทำทานเองได้ที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปถึงภาคเหนือ
สูตรการทำแกงกระด้างที่ใคร ๆ ก็สามารถทำตามได้
แกงกระด้าง เป็นเมนูที่มีลักษณะเป็นน้ำแกงข้น สีน้ำตาลเข้มอมแดง รสชาติจัดจ้านกลมกล่อม อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของเครื่องแกง นิยมนำมาทานคู่กับข้าวเหนียวหรือข้าวสวยร้อน ๆ และแน่นอนว่าวิธีทำแกงกระด้างนั้นไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนแต่อย่างใด มือใหม่ก็สามารถทำได้ เพียงทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ก็จะได้แกงถ้วยอร่อยไว้ทำทานกันได้บ่อย ๆ ที่บ้าน ไม่ต้องง้อร้านอาหารทางภาคเหนืออีกต่อไป
ส่วนผสม
- ขาหมู 1 ขา
- พริกแกงเหนือ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำสะอาด 5 ลิตร
- ใบมะกรูด 2 ใบ
- ต้นหอม ผักชี สำหรับโรยหน้า
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
- ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับ สูตรแบบเชียงราย)
วิธีการทำ
- นำขาหมูมาล้างให้สะอาด จากนั้นตัดเล็บและลอกหนังออก ต่อด้วยการแล่เนื้อเป็นชิ้นพอดีคำแล้วพักไว้
- เตรียมตั้งหม้อและใส่น้ำสะอาดลงไป ตามด้วยขาหมูที่ล้างทำความสะอาดแล้วต้มจนเดือด
- เมื่อขาหมูเริ่มเปื่อยให้ใส่พริกแกงลงไปคนให้ละลาย ปรุงรสด้วยเกลือและผงปรุงรส ก่อนจะใส่ใบมะกรูดลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
- ปิดฝาหม้อและต้มด้วยไฟอ่อน โดยใช้เวลาเคี่ยวนานประมาณ 3-4 ชั่วโมง หรือต้มจนกว่าขาหมูจะเปื่อยยุ่ย
- เมื่อต้มขาหมูจนได้เนื้อเปื่อยได้ที่แล้ว ใส่ผงวุ้นลงไปคนให้ทั่ว จากนั้นปิดฝา แล้วเคี่ยวต่ออีก 10 นาที เพียงเท่านี้ก็สามารถตักใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ โรยหน้าด้วยต้นหอมและผักชี
- รอให้วุ้นเซตตัวก็สามารถตัดเป็นชิ้นเสิร์ฟได้เลย
เคล็ดลับความอร่อย
การทำเมนูแกงกระด้างให้อร่อยนั้นมีเคล็ดลับง่าย ๆ อยู่เพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น โดยขั้นตอนการต้มขาหมู ควรใช้ไฟอ่อนในการต้ม เพื่อให้ได้เนื้อที่เปื่อยยุ่ย ส่วนช่วงที่เคี่ยวขาหมู ให้คนแกงเป็นระยะ ๆ เพื่อให้เนื้อขาหมูสุกทั่วทั้งชิ้น และสำหรับใครที่ไม่มีผงวุ้น สามารถใช้เอ็นหมูหรือหนังหมูมาต้มกับขาหมูแทนได้ เพียงเท่านี้ก็จะได้เนื้อสัมผัส ไม่แตกต่างจากใช้ผงวุ้นมากนัก
ประโยชน์ที่ได้จากแกงกระด้าง
แกงกระด้าง นับว่าเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารที่หลากหลาย นอกจากขาหมูที่เป็นแหล่งโปรตีนแล้ว ยังมีทั้งยังมีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 ธาตุเหล็ก และแคลเซียม ล้วนแล้วแต่เป็นสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย นอกจากนี้ประโยชน์ของแกงกระด้างยังมีส่วนช่วยให้ร่างกายอบอุ่นได้ด้วยไขมัน จึงนิยมทานกันในช่วงฤดูหนาวนั่นเอง
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace