หลายคนมีโอกาสได้ลิ้มลองรสชาติของเมนูพะแนงหมูจากร้านดังแล้วเกิดคำถามสงสัยว่า ต้องทำอย่างไรให้ได้น้ำแกงสูตรเข้มข้นที่รสชาติกลมกล่อม จัดจ้านไปด้วยความเผ็ดและความมัน หอมกลิ่นเครื่องเทศสุด ๆ ขอบอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องยาก ก่อนไปจดสูตรเด็ดความอร่อยที่เรานำมาฝากในวันนี้ ไปทำความรู้จักกับพะแนงหมู ตำรับอาหารไทยให้มากขึ้นก่อน รับรองคุณจะต้องหลงรัก
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
พะแนงหมู เมนูอาหารไทยที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ทานง่าย ทำง่าย แถมได้ประโยชน์จากวัตถุดิบธรรมชาติเพียบ
พะแนงหมู เป็นเมนูอาหารที่มีขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก สามารถทำทานเองง่าย ๆ ได้ที่บ้าน แม้จะเป็นอาหารคาวที่มีรสชาติจัดจ้าน แต่นอกจากความอร่อยแล้วนั้น ยังให้คุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลายและดีต่อร่างกายของเราอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเมนูเพื่อสุขภาพตามแบบฉบับอาหารไทย เมืองเขตร้อนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ เริ่มจากเนื้อสัตว์ที่เลือกใส่ ในที่นี้คือเนื้อหมู ซึ่งเป็นแหล่งรวมโปรตีนและสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ทั้งยังช่วยให้ระบบต่าง ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย นอกจากนี้ประโยชน์ของพะแนง ยังขึ้นอยู่กับสมุนไพรและผักที่นำมาประกอบอาหารอีกด้วย
ทำความรู้จักเมนูพะแนงหมูแบบเจาะลึก ก่อนเข้าครัวทำเมนูเด็ดตามแบบฉบับอาหารไทยรสชาติจัดจ้าน
พะแนงหมู เป็นเมนูอาหารไทยที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน แกงพะแนง ปรากฏครั้งแรกในหนังสือพิมพ์สยามรัฐโดย ม.ร.ว คึกฤทธิ์ ปราโมท เป็นเมนูทำง่ายที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารประเภทแกงของชาวมุสลิม ใช้เนื้อและไก่ในการทำเป็นหลัก และได้มีการปรับปรุงสูตรมาใช้เนื้อหมูอย่างเช่นในปัจจุบัน รสชาติถูกดัดแปลงให้ไม่หวานและไม่เผ็ดจนเกินไป กลมกล่อมกำลังดี จึงทำให้กลายเป็นเมนูที่ถูกปาก ถูกใจใครหลายคน
แชร์สูตรการทำพะแนงหมูด้วยพริกแกงตำเอง ทำง่าย ได้ความอร่อยแบบต้นตำรับ รับรองต้องประทับใจ
เคล็ดลับสำคัญของการทำพะแนงหมูให้อร่อยนั้นอยู่ที่เทคนิคการผัดหัวกะทิให้แตกมันก่อน จากนั้นจึงค่อยใส่พริกแกงลงไปผัดให้เข้ากัน ปิดท้ายด้วยการเติมหางกะทิและเนื้อหมูลงไปผัดจนสุก โรยหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าแดงและใบมะกรูด ตกแต่งให้สวยงามก็เป็นอันเรียบร้อย
พริกแกงพะแนงนั้นจะมีลักษณะเป็นสีแดงสด แต่ยังอ่อนกว่าพริกแกงแดงเล็กน้อย เนื่องจากมีส่วนผสมที่ใกล้เคียงกัน เพียงแต่จะใช้พริกน้อยกว่า และต้องใส่ลูกผักชี ยี่หร่า รวมถึงถั่วลิสงลงไปด้วยเพื่อความมันของเครื่องแกง พร้อมกับช่วยเพิ่มความหอมของเครื่องเทศ
แน่นอนว่าเราไม่พลาดที่จะนำสูตรพริกแกงตำเองมาฝากกันในหัวข้อนี้ เพราะเราทราบดีว่านี่คือส่วนผสมสำคัญที่ขาดไม่ได้ หลายคนเคยไปกินที่ร้านแล้วรู้สึกว่าไม่ถึงเครื่องถึงใจก็สามารถจดเอาสูตรนี้ไปลองทำทานเองกันที่บ้านได้
ส่วนผสมพริกแกงพะแนงหมู
- พริกชี้ฟ้าแดงแห้งใหญ่ 5-6 เม็ด
- พริกขี้หนูแดงแห้งเล็ก 4 เม็ด
- กระเทียม 2 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดง 3 ช้อนโต๊ะ
- ตะไคร้ซอย 4 ช้อนโต๊ะ
- ข่า 1 ช้อนโต๊ะ
- ผิวมะกรูด 1/2 ช้อนโต๊ะ
- กะปิ 1/3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- รากผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
- ยี่หร่า 1 ช้อนโต๊ะ
- ลูกผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
- ถั่วลิสง 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำพริกแกง
- เริ่มจากการนำพริกชี้ฟ้าแดงแห้งใหญ่และพริกขี้หนูแดงแห้งเล็กมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แกะเอาเม็ดพริกออกแล้วต่อด้วยการแช่น้ำให้นิ่มลง พักไว้
- หันไปเตรียมครกกับสากไว้โขลกลูกผักชีและยี่หร่าให้เข้ากัน ตามด้วยรากผักชี ตะไคร้ และข่า จากนั้นตำส่วนผสมทั้งหมดให้ละเอียด
- เมื่อเสร็จแล้วจึงใส่กระเทียม หอมแดง ถั่วลิสง และผิวมะกรูด เติมเกลือลงไปหยิบมือเพื่อเป็นตัวช่วยในการดูดซับน้ำจากส่วนผสมในครก ทำให้ตำได้ง่ายขึ้น
- ขั้นตอนนี้ให้นำพริกชี้ฟ้าแดงแห้งใหญ่และพริกขี้หนูแดงแห้งเล็กที่แช่น้ำเตรียมไว้มาบีบน้ำออก จากนั้นใส่ลงไปตำในครกรวมกับส่วนผสมทั้งหมด ปิดท้ายด้วยการใส่กะปิลงไปตำจนเป็นเนื้อเดียวกันก็จะได้พริกแกงรสเด็ดสำหรับเมนูพะแนง
ส่วนผสมเครื่องปรุง
- สันคอหมูสไลด์ 500 กรัม
- พริกชี้ฟ้าแดง 2 เม็ด
- ใบมะกรูด 5 ใบ
- หัวกะทิ 500 มิลลิลิตร
- หางกะทิ 300 มิลลิลิตร
- พริกแกงพะแนง 2½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2½ ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำพะแนงหมู
- เริ่มต้นขั้นตอนแรกด้วยการฉีกใบมะกรูดออกจากก้าน ซอยให้เป็นเส้นเล็ก ๆ เตรียมไว้ จากนั้นทำแบบเดียวกันกับพริกชี้ฟ้าแดงเพียงแต่ให้คว้านเมล็ดออกด้วย
- นำเนื้อหมูมาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า จากนั้นหั่นสไลด์เป็นชิ้นพอดีคำ หรือหั่นตามขนาดที่ชอบ แล้วพักไว้
- หันมาเตรียมตั้งหม้อหรือกระทะแล้วใส่หัวกะทิลงไป ใช้ไฟแรงในการผัดให้หัวกะทิเดือด จากนั้นเมื่อกะทิเริ่มเดือดให้ลดระดับไฟลงมาใช้ไฟกลางค่อนไปอ่อน ผัดจนต่อจนกว่ากะทิจะแตกมัน
- เมื่อหัวกะทิในกระทะแตกมันดีแล้วให้ใส่พริกแกงที่เตรียมไว้ลงไปผัดให้เข้ากัน ตามด้วยเนื้อหมู คลุกเคล้ากับเครื่องแกงจนเนื้อหมูสุกและเครื่องแกงกำลังเข้าเนื้อ
- หลังจากนั้นให้เติมหางกะทิลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลโตนดและน้ำปลา คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันอีกครั้ง ก่อนตักเสิร์ฟโรยหน้าด้วยใบมะกรูดและพริกชี้ฟ้าที่ซอยเตรียมไว้ลงไปผัดให้พอเข้ากัน เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace