กุยช่ายทอด ขึ้นชื่อว่าเป็นเมนูของทานเล่นที่ได้รับความนิยมในหมู่ชาวไทย ทั้งไทยแท้และคนไทยเชื้อสายจีน โดดเด่นด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ รสสัมผัสของแป้งที่กรอบนอก ส่วนข้างในหนึบหนับ เคี้ยวเพลิน อัดแน่นไปด้วยไส้ผักแบบจัดเต็ม บวกกับน้ำจิ้มรสเด็ดที่มีทั้งเปรี้ยวและเผ็ด กลายเป็นเมนูโปรดของใครหลายคน ทานได้บ่อยไม่มีเบื่อ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับขนมกุยช่าย ก่อนมาเป็นกุยช่ายทอด
กุยช่ายทอด เป็นหนึ่งในประเภทขนมกุยช่ายที่ได้รับความนิยมในไทย ซึ่งในอดีตมีเพียงกุยช่ายแบบอาหารจีนแต้จิ๋ว ซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนแป้งใส่ไส้ผักขนาดใหญ่ หรือจะเป็นกุยช่ายแบบถาดที่ใส่ใบกุยช่ายไปพร้อมกับแป้งแล้วนึ่งให้สุก และกุยช่ายปากหม้อหรือที่หลายคนเรียกกันว่ากุยช่ายแป้งสด ที่มีการดัดแปลงเอาแป้งข้าวเกรียบปากหม้อมาทำแล้วเปลี่ยนไส้เป็นไส้กุยช่าย นอกจากนี้ยังมีความแตกต่างกันที่สีอีกด้วย โดยปกติทั่วไปจะเป็นขนมที่มีแป้งสีขาว แต่เมื่อถึงช่วงเทศกาลก็จะเปลี่ยนไปตามเทศกาลนั้น ๆ
สำหรับกุยช่ายทอดนั้น แต่เดิมเป็นอาหารท้องถิ่นของชาวจีนแต้จิ๋ว ถูกนำเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยชาวจีนเพื่อหาเลี้ยงชีพเมื่ออพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ในไทย ด้วยรสชาติความอร่อยและความแปลกใหม่ของขนมชนิดนี้ จึงกลายเป็นอาหารทานเล่นที่ถูกปากคนไทย
โดยคาดว่าได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และสามารถหาทานได้ง่ายมากขึ้นในปัจจุบัน ทั้งในตลาดนัดและรถเข็นในรูปแบบสตรีทฟู้ด ส่วนร้านดังและขึ้นชื่อมากที่สุดก็จะเป็นร้านกุยช่ายที่ตลาดพลู ฝั่งธนบุรี นั่นเอง
แจกสูตรการทำกุยช่ายทอด กรอบนอกนุ่มใน เคี้ยวหนึบหนับ
กุยช่ายทอด เป็นขนมที่มีวัตถุดิบหลักในการทำเพียงไม่กี่อย่าง เน้นไปที่แป้ง โดยจะใช้แป้ง 3 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ แป้งมัน แป้งข้าวเจ้า และแป้งข้าวเหนียว จากนั้นใส่ใบกุยช่ายลงไป ปรุงรสเล็กน้อย
เคล็ดลับความอร่อยของกุยช่ายทอดสูตรโฮมเมดนี้อยู่ที่การนวดแป้งให้ได้เนื้อที่เนียนนุ่ม เพื่อให้ได้รสสัมผัสที่หนึบหนับขณะเคี้ยว เป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้หลายคนติดใจในรสชาติ ยิ่งได้ทานกับน้ำจิ้มรสเด็ดทำเอง รับรองว่านี่จะเป็นจานโปรดของคนในบ้านอย่างแน่นอน
ส่วนผสมกุยช่ายทอด
- แป้งมัน 200 กรัม
- แป้งข้าวเจ้า 150 กรัม
- แป้งข้าวเหนียว 50 กรัม
- ใบกุยช่าย 800 กรัม
- น้ำตาล 2 ช้อน
- เกลือป่น ½ ช้อน
- ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
- พริกไทย 1 ช้อน
- เบกกิ้งโซดา ½ ช้อน
- ซีอิ๊วขาว 1 ½ ช้อน
- น้ำมันพืช 5 ช้อน
ส่วนผสมน้ำจิ้มกุยช่าย
- น้ำเปล่า 80 กรัม
- น้ำตาล 200 กรัม
- จิ๊กโฉ่ว 100 กรัม
- ซีอิ๊วขาว 100 กรัม
- ซีอิ๊วดำ 120 กรัม
- พริกขี้หนู
วิธีการทำ
- นำใบกุยช่ายมาหั่นให้ได้ความยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ใส่ในชามผสม ตามด้วยน้ำตาล เกลือ ซีอิ๊วขาว ผงปรุงรส พริกไทย เบกกิ้งโซดา ซีอิ๊วขาว และน้ำมันพืช จากนั้นใช้มือนวดให้ส่วนผสมเข้ากันดี พักไว้ประมาณ 20 นาที
- นำแป้งมัน แป้งข้าวเจ้า และแป้งข้าวเหนียวร่อนลงใส่ชามผสม คนส่วนผสมแป้งให้เข้ากันก่อนจะเติมน้ำร้อนจัดลงไปในปริมาณ 400 กรัม ตามด้วยน้ำอุณหภูมิห้องอีก 250 กรัม คนให้ส่วนผสมแป้งหายร้อน
- เมื่อคนจนแป้งเริ่มจับตัวกันให้ใส่ใบกุยช่ายที่เตรียมไว้ตามลงไป คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดจนกว่าเนื้อแป้งและผักจะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
- เตรียมถาดอบขนมที่ทาด้วยน้ำมันจนทั่วแล้วนำไปนึ่งให้ร้อนเป็นเวลาประมาณ 20 นาที ครบเวลาแล้วให้นำออกมาแล้วเทส่วนผสมแป้งกุยช่ายลงไปจนเต็มถาด เกลี่ยหน้าให้เรียบ ก่อนนำไปนึ่งเป็นเวลา 25 นาที
- ระหว่างที่นึ่งให้ลองเอาไม้จิ้มแป้งดู หากไม่มีแป้งติดขึ้นมา แสดงว่าแป้งสุกใช้ได้แล้ว จากนั้นก็สามารถยกลงจากเตาเพื่อทาน้ำมันให้ทั่วหน้าขนม ผึ่งลมให้เย็น แล้วค่อย ๆ แซะเอาขนมออกจากถาด ทาน้ำมันลงบนมีดแล้วนำไปตัดแบ่งขนมเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดพอดีคำ
- ตั้งกระทะด้วยไฟแรง รอให้กระทะร้อนจัดจนควันขึ้นจึงใส่น้ำมันลงไป นำกุยช่ายที่ผ่านการนึ่งมาเรียบร้อยแล้วไปคลุกกับแป้งทอดกรอบโดยไม่จำเป็นต้องคลุกทั้งลูก จากนั้นนำลงไปทอดในกระทะโดยใช้ไฟกลางให้ได้กุยช่ายที่มีสีเหลืองกรอบแล้วตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
- การทำน้ำจิ้มเริ่มต้นด้วยการใส่น้ำลงในหม้อ ตั้งบนไฟแรง เติมน้ำตาลลงไป แล้วค่อย ๆ คนและเคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนกว่าน้ำตาลละลายเข้ากันดี จากนั้นใส่จิ๊กโฉ่ว ซีอิ๊วขาว และซีอิ๊วดำลงไป คนให้ส่วนผสมน้ำจิ้มเข้ากัน รอให้เดือดแล้วปิดไฟ ปิดท้ายด้วยการใส่พริกขี้หนูตามใจชอบ
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace