ปลาทอดสมุนไพร เป็นอีกหนึ่งเมนูสุดเบสิคที่คนไทยชื่นชอบ เมื่อถึงเวลาของมื้ออาหารภาพที่คุ้นตาก็มักจะเห็นเมนูปลาทอดวางไว้อยู่บนโต๊ะอาหารเสมอ ด้วยสีสันที่น่าทาน เนื้อสัมผัสที่กรอบนอกนุ่มใน กับรสชาติที่มีความเค็มเล็กน้อย ทานได้ทุกเพศ ทุกวัย ทำให้กลายมาเป็นเมนูที่ถูกอกถูกใจของใครหลาย ๆ คน หากร้านไหนไม่มีเมนูนี้พร้อมเสิร์ฟก็ถือว่าพลาดมาก ๆ แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่ทำให้การทานข้าวนอกบ้านเป็นเรื่องยากขึ้น ทำให้หลายคนเลือกที่จะทานข้าวที่บ้านแทนการออกไปเผชิญกับมลภาวะ โรคระบาด และพิษเศรษฐกิจ จนทำให้คิดถึงเมนูยอดฮิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางอาหารเมนูนี้ และในวันนี้ FoodSpace จึงไม่พลาดที่จะนำขั้นตอนละวิธีการทำเองง่าย ๆ ได้ที่บ้านมาฝากกัน
ส่องประโยชน์ของปลาทับทิม วัตถุดิบหลักในจานเด็ด ปลาทอดสมุนไพร เมนูอาหารเพื่อสุขภาพตัวจริง
ปลาทอดสมุนไพร จะให้อร่อยเด็ดก็ต้องใช้ ปลาทับทิม ถึงจะหอม หวาน และมัน แถมยังเต็มไปด้วยคุณประโยชน์ต่อร่างกายที่เหมาะกับคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก คุณค่าทางอาหารที่โดดเด่นคือ เป็นแหล่งพลังงานที่มีโปรตีนสูง อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ที่สำคัญ ปลาทับทิม มีปริมาณไขมันที่ต่ำกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่น ดีต่อสุขภาพเป็นไหน ๆ เพราะจะช่วยให้ไม่เกิดการสะสมไขมันในหลอดเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิต รวมถึงโรคหัวใจด้วย นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ลดความเสี่ยงหลอดเลือดอุดตัน แถมยังมีส่วนช่วยในการบำรุงสมองและบรรเทาอาการปวดบวม
บอกต่อสูตรการทำง่าย ๆ ทำเองได้ที่บ้าน ไม่ต้องรอคิวยาว บอกลาร้านอาหารได้เลย
วัตถุดิบในการทำ
– ปลาทับทิมขนาด 8 ขีด 1 ตัว
– เกลือป่นเล็กน้อยสำหรับหมักปลา
– น้ำมันพืชสำหรับทอด
– น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
– น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
– พริกชี้ฟ้าแดงซอย 1 เม็ด
– ตะไคร้ซอย 1 ต้น
– หอมแดงซอย 4 หัว
– เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดกรอบ 1 ช้อนโต๊ะ
– ใบสะระแหน่ 10 ใบ
– ถั่วพู ถั่วฝักยาว หรือ ผักนานาชนิดตามชอบ
ขั้นตอนและวิธีการทำปลาทอดสมุนไพร
– นำปลาทับทิมที่ผ่านการทำความสะอาดเรียบร้อยมาคลุกกับเกลือป่นให้ทั่ว แล้วพักทิ้งไว้ในภาชนะ
– ตั้งกระทะไฟปานกลาง เทน้ำมันพืชลงไปแล้วรอให้ร้อน จากนั้นนำปลาลงไปทอดจนสุกมีสีเหลือง แล้วตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันและนำลงวางไว้ในจานเสิร์ฟ
– เตรียมชามผสมแล้วใส่น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย ผสมให้น้ำตาลละลายแล้วใส่พริกชี้ฟ้าลงไปคนให้เข้ากัน ตามด้วยตะไคร้ซอย หอมแดงซอย มะนาวหั่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และใบสะระแหน่ คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟ