เสี่ยวหลงเปา หนึ่งในเมนูอาหารจีนที่ใช้วัตถุดิบชั้นดีมาผ่านกรรมวิธีสุดพิถีพิถัน กลายเป็นเมนูอาหารที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ จนทำให้หลายคนติดใจอยากลองทำเองดูบ้าง วันนี้เราจึงไม่พลาดนำเอาสูตรวิธีการทำมาฝาก รับรองว่าสามารถทำตามได้ไม่ยาก อร่อยถูกใจชัวร์
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
พาส่องที่มาของความอร่อย ต้นกำเนิดของเสี่ยวหลงเปา
ประวัติความเป็นมาของ เสี่ยวหลงเปา นั้นถือว่ามีต้นกำเนิดมาอย่างยาวนาน หากจะเรียกว่าเป็นอาหารจีนโบราณก็คงจะไม่ผิดอะไร โดยต้นกำเนิดนั้นมีมาตั้งแต่ช่วงราชวงศ์ซางเหนือ จุดเริ่มต้นมาจากเมนูที่มีลักษณะคล้ายกันอย่าง “ซาลาเปาในน้ำซุป”
ในเวลาต่อมาช่วงราชวงศ์ชิง ได้มีการพบเจอเมนูซาลาเปาในเข่งเล็กอย่างเช่นในปัจจุบันที่เมืองฉางโจว นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงสูตร เสี่ยวหลงเปา ให้มีความเป็นเอกลักษณ์และแตกต่างกันออกไปตามแต่ละพื้นที่ อย่างเช่น สูตรรสชาติหวานของเมืองอู๋ซี และสูตรรสชาติสดใหม่ของเมืองฉางโจว แต่สิ่งที่ไม่แตกต่างกันเลยในแต่ละสูตรก็คือ เนื้อแป้งที่บาง สดและรสหอมหวาน
วิธีการทำเสี่ยวหลงเปา เมนูอาหารระดับตำนาน
ส่วนผสมแป้ง
- แป้งขนมปัง 100 กรัม
- แป้งสาลีตรา บัวแดง 150 กรัม
- น้ำอุ่น 140 กรัม
- น้ำมันพืช 20 กรัม
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ สำหรับทำแป้งนวล
ส่วนผสมไส้
- หมูบดติดมัน 400 กรัม
- เกลือสมุทร ½ ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
- พริกไทยขาวป่น ½ ช้อนชา
- น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ + 1 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ + 1 ช้อนชา
- ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
- ขิงขูด 1 ช้อนชา
- ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำซุปแช่เย็นเป็นวุ้นสับละเอียด 300 กรัม
ส่วนผสมน้ำซุปหมู
- หนังหมู 200 กรัม
- โครงไก่ลอกหนัง 500 กรัม
- กระดูกหมูเอียวเล้ง 500 กรัม
- น้ำ 3.5 ลิตร
- ต้นหอม 2 ต้น
- ขิงหั่นแว่น 4 แว่น
- เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
- เหล้าจีน 2 ช้อนโต๊ะ
- เจลาตินผง 60 กรัม
- น้ำเย็น 300 กรัม
- น้ำมันพืชสำหรับทอดกระดูก
- จิ๊กโฉ่วและขิงซอยสำหรับจัดเสิร์ฟ
- อุปกรณ์จำเป็น ลังถึง ไม้คลึง ผ้าขาวบาง เข่งไม้ไผ่
วิธีการทำ
- เริ่มต้นด้วยการเตรียมต้มน้ำซุปหมู นำหนังหมู โครงไก่ และกระดูกหมูเอียวเล้งมาล้างให้สะอาด โดยแช่ในน้ำเปล่าเพื่อล้างเลือดออกเป็นเวลา 10 นาที จากนั้นเทน้ำออกแล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ ต่อไปให้นำหนังหมูที่ล้างทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วไปต้มประมาณ 5 นาที หรือจนกว่าจะสุก ตักขึ้นแล้วแช่ในน้ำเย็น หั่นเป็นชิ้นเล็กพักไว้
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันบนเตาโดยใช้ไฟแรง รอให้น้ำมันร้อนแล้วจึงตักน้ำมันราดโครงไก่ กระดูกหมูเอียวเล้ง และหนังหมูที่เตรียมไว้ให้ทั่ว ราดให้ผิวด้านนอกพอสุก จากนั้นนำไปพักไว้บนตะแกรง ส่วนน้ำมันในกระทะให้ใส่ขิงและต้นหอมลงไปผัดให้พอสลด ตักขึ้นมาพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
- เตรียมตั้งหม้อต้มน้ำด้วยไฟกลาง ใส่โครงไก่ กระดูกหมูเอี่ยวเล้ง หนังหมู ต้นหอม ขิง เกลือสมุทรและเหล้าจีนลงไปต้ม เมื่อเดือดแล้วให้ลดระดับไฟลง ต้มต่อเป็นเวลา 2 ชั่วโมง ระหว่างนั้นให้คอยช้อนฟองและไขมันออกเรื่อย ๆ สังเกตเมื่อต้มจนน้ำเหลือประมาณ 1.5 ลิตร จึงค่อยกรองเอากากออกแล้วพักไว้
- ทำการบลูมเจลาติน โดยการนำผงเจลาตินมาผสมกับน้ำเย็น คนให้เข้ากันแล้วพักไว้ 10 นาที หลังจากได้ส่วนผสมเจลาตินที่อิ่มตัวแล้วให้เทลงในน้ำซุป คนให้ละลาย จากนั้นนำน้ำซุปเข้าตู้เย็นในช่องธรรมดาจนเซตตัวเป็นวุ้น แล้วจึงนำวุ้นน้ำซุปออกมาสับให้ละเอียดเตรียมไว้
- ในขั้นตอนนี้จะเป็นการทำแป้งเสี่ยงหลงเปา ให้เตรียมชามผสมใส่แป้งขนมปังและแป้งสาลีลงไปพร้อมกัน ค่อย ๆ เทน้ำอุ่นลงไป นวดจนแป้งเข้ากันดี จากนั้นเติมน้ำมันทีละน้อย นวดจนได้แป้งที่เนียนนุ่ม พักไว้ประมาณ 20 นาที ระหว่างนั้นให้หันมาทำไส้ โดยใส่หมูบด เกลือสมุทร น้ำตาลทราย พริกไทยขาว น้ำมันงา ซีอิ๊วขาว เหล้าจีน ซอสหอยนางรม ขิงขูด และต้นหอมลงไปในชามผสม นวดให้ส่วนผสมจับตัวกันเป็นก้อน จากนั้นใส่วุ้นน้ำซุปและหมูสับละเอียดลงไปผสมให้เข้ากันอีกครั้ง นำเข้าพักในตู้เย็น 30 นาที
- ขั้นตอนนี้นับว่าเป็นขั้นตอนสำคัญเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นการห่อเสี่ยวหลงเปา แบ่งส่วนผสมแป้งเป็นก้อน ก้อนละ 8 กรัม คลุมด้วยผ้าขาวบางที่ผ่านการชุบน้ำหมาด ๆ โรยแป้งนวลบนโต๊ะ แล้วกดแป้งให้แบน ใช้ไม้คลึงรีดแป้งจากขอบเข้าหาตรงกลางพร้อมกับหมุนแป้ง ตักไส้ใส่พอประมาณ ห่อจับจีบเป็นจีบถี่ ๆ ทำจนหมดไส้แล้วใช้ผ้าขาวบางคลุมไว้อีกครั้ง
- ตั้งซึ้งขึ้นบนเตาไฟปานกลางค่อนแรง จัดเรียงตัวขนมที่ห่อเสร็จเรียบร้อยในเข่งไม้ไผ่โดยไม่ลืมรองด้วยกระดาษไข เมื่อน้ำเดือดก็สามารถนึ่งได้เลย ใช้เวลานึ่งเพียง 10 นาทีก็พร้อมเสิร์ฟ ทานคู่กับจิ๊กโฉ่วใส่ขิงซอย
แนะนำวิธีการทานเสี่ยวหลงเปาให้อร่อย
หลังจากได้เรียนรู้สูตรการทำเมนูเสี่ยวหลงเปากันเรียบร้อยแล้ว ประเด็นต่อมาที่น่าสนใจก็คือ วิธีการทานอาหารว่างชนิดนี้ให้อร่อยโดนใจได้มากที่สุด โดยจะต้องรีบทานหลังทำเสร็จทันที แนะนำให้ใช้ตะเกียบคีบอาหารวางลงบนช้อนก่อน จากนั้นใช้ปลายตะเกียบเจาะแป้งที่บางและนุ่ม เพื่อลิ้มรสความกลมกล่อมของน้ำซุปก่อน ปิดท้ายด้วยการกินตัวขนมทั้งชิ้น จะช่วยให้ได้รสชาติมากขึ้น
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace