ขนมผักกาด นับว่าเป็นเมนูอาหารว่างในความทรงจำวัยเด็กของใครหลายคน จานเด็ดที่มาพร้อมกับแป้งทอดที่ผิวภายนอกกรอบกำลังดี เนื้อข้างในเหนียวนุ่มละมุนลิ้น ผ่านกรรมวิธีสุดพิถีพิถันทำให้ได้มาซึ่งรสชาติเข้มข้นอย่างมีเอกลักษณ์ จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายคนชื่นชอบ ในปัจจุบันขนมผักกาดเป็นหนึ่งในขนมโบราณที่หาทานตามท้องตลาดได้ยากขึ้น วันนี้เราจึงได้รวบรวมเกร็ดความรู้ต่าง ๆ รวมถึงวิธีการทำเอาไว้ในบทความนี้
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักขนมผักกาด ที่มาที่ไปของเมนูขนมที่ไม่ได้มีส่วนผสมของผักกาด
แม้จะมีชื่อเรียกว่า “ขนมผักกาด” แต่กลับไม่มีใครเคยได้เห็นผักกาดสักใบในขนมชนิดนี้เลย นั่นก็เป็นเพราะว่า ส่วนผสมหลักในการทำมาจากหัวไชเท้า ที่บางครั้งถูกเรียกว่าหัวผักกาด หัวไชโป๊ว หรือหัวผักกาดของจีน นั่นเอง จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน
ขนมผักกาด จัดว่าเป็นหนึ่งในเมนูติ่มซำที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากบนโต๊ะ และยังเป็นเมนูอาหารจีนในดวงใจของใครหลายคน มีให้เลือกทานหลายรูปแบบ ทั้งแบบนึ่ง แบบทอด รวมถึงแบบผัด
อัดแน่นไปด้วยประโยชน์มากมายจากหัวไชเท้าที่มีรสเผ็ดร้อน แต่กลับออกฤทธิ์เย็น ดับกระหายได้ดี ช่วยขับปัสสาวะ ทั้งยังสามารถช่วยแก้อาหารท้องผูกได้เนื่องจากมีใยอาหารสูง
2 สูตรขนมผักกาด สไตล์ไหนก็อร่อย เลือกได้ทานได้ไม่เบื่อ
1.ขนมผักกาดโฮมเมด
หากใครกำลังตามหาสูตรขนมผักกาดแบบง่าย ๆ ต้องไม่พลาดสูตรนี้ รับประกันความอร่อยของตัวแป้งสีขาวนุ่ม ๆ หอมอร่อย แถมมีประโยชน์ แต่จะมีวัตถุดิบและขั้นตอนการทำอย่างไร เตรียมตัวไปจดสูตรไว้ทำตามได้เลย
ส่วนผสม
หัวไชเท้าขูดฝอย 500 กรัม, แป้งข้าวเจ้า 300 กรัม, แป้งท้าวยายม่อม 25 กรัม, กุ้งแห้ง 30 กรัม, เห็ดหอม 5 ดอก, เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำเปล่า 300 มิลลิลิตร
วิธีการทำ
เริ่มต้นจากการใส่หัวไชเท้าขูดฝอยลงในชามผสม ตามด้วยเกลือ ใช้มือขยำส่วนผสมจนหัวไชเท้าคายน้ำออกมา ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีแล้วจึงบีบน้ำออก จากนั้นใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งท้าวยายม่อม และน้ำเปล่าลงไป นวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เติมกุ้งแห้งและเห็ดหอมหั่นบางลงไป นวดจนส่วนผสมเข้ากันดีอีกครั้งแล้วพักไว้
ระหว่างนั้นให้หันไปเตรียมพิมพ์สำหรับนึ่งแป้งขนมผักกาด ทาน้ำมันบาง ๆ ให้ทั่วทั้งพิมพ์แล้วเทส่วนผสมแป้งที่เตรียมไว้ลงไป นำไปนึ่งในน้ำเดือดเป็นเวลา 30 นาที หรือรอจนกว่าแป้งขนมจะสุกดี จากนั้นสามารถแกะขนมออกจากพิมพ์ พักไว้ให้เย็นตัวลงก็สามารถตัดเป็นชิ้นพอดีคำ พร้อมเสิร์ฟ
2.ขนมผักกาดใส่ไข่
สำหรับใครที่ไม่อยากทานแต่ขนมที่มีส่วนประกอบของแป้งเป็นหลักเพียงอย่างเดียว เรามีสูตรการทำขนมผักกาดในอีกรูปแบบหนึ่งมาฝาก แถมขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ไม่มีพิมพ์ในการทำขนม โดยสามารถนำกระทะเทฟลอนที่มีในบ้านมาใช้ทำได้แบบสบาย ๆ ได้รสชาติอร่อย แป้งน้อย นุ่มละมุน ไม่แข็งกระด้าง สูตรและวิธีการทำจะเป็นอย่างไรไปติดตามพร้อมกันได้เลย
ส่วนผสม
หัวไช้เท้า 1 หัว, เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ, แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย, แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำ 1 1/3 ถ้วย, เกลือป่น 1 ช้อนชา, น้ำมันพืช, กุนเชียง, ไข่เป็ด, ซีอิ๊วดำ เล็กน้อย, ซีอิ๊วขาว เล็กน้อย, ถั่วงอก, ใบกุยช่าย
วิธีการทำ
ขั้นตอนแรกให้นำหัวไชเท้ามาขูดเป็นเส้น ๆ ใส่ในชามผสม ตามด้วยเกลือ คลุกเคล้าให้เข้ากันดี พักไว้ประมาณ 10 นาที เพื่อให้หัวไชเท้าคายน้ำออกมา จากนั้นบีบน้ำออกจนหมด นำเนื้อหัวไชเท้าที่ได้ไปผสมกับแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำ และเกลือป่น คนผสมให้เข้ากันดีแล้วพักไว้
เตรียมตั้งกระทะเทฟลอนโดยใช้ไฟกลางค่อนอ่อน ทาน้ำมันเคลือบผิวกระทะเล็กน้อย รอจนน้ำมันร้อนจึงใส่ส่วนผสมแป้งที่เตรียมไว้ลงไปเกลี่ยให้ทั่วกระทะ โดยกะให้ตัวแป้งมีความหนาไม่เกิน 5 มิลลิเมตร เพราะหากหนาจนเกินไปอาจทำให้แป้งด้านในไม่สุก
ใช้เวลาทอดเป็นเวลาประมาณ 5 นาที หรือจนผิวด้านล่างสุกจึงกลับด้านเพื่อทอดต่ออีก 2 นาที เพื่อให้ตัวแป้งแห้ง หลังจากนั้นให้ตักแผ่นแป้งขึ้นพักไว้ รอให้คลายความร้อนแล้วหั่นเป็นชิ้น ๆ ขนาดพอดีคำ
ตั้งกระทะอีกครั้งสำหรับการทอดกุนเชียงให้สุก ตักขึ้นแล้วพักไว้ จากนั้นใส่น้ำมันลงในกระทะเล็กน้อย พอน้ำมันร้อนให้ใส่ไข่เป็ดลงไป เกลี่ยไข่เป็ดให้กระจายทั่วกระทะ สังเกตเมื่อไข่เริ่มสุกประมาณ 50% ให้ใส่แป้งขนมที่หั่นเตรียมไว้ลงไปผัดให้เข้ากัน ใส่ซีอิ๊วดำลงไป ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว แล้วใส่กุนเชียงทอด ถั่วงอก และใบกุยช่ายลงไปผัดให้เข้ากัน เพียงเท่านี้ก็สามารถตักใส่จานเสิร์ฟได้เลย
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace