ขนมใส่ไส้ เป็นขนมไทยโบราณที่ครองใจคนรักขนมไทยมานาน ด้วยรสชาติหอมหวานและเนื้อสัมผัสที่เหนียวนุ่ม ขนมใส่ไส้หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าขนมสอดไส้ เป็นขนมที่มีความหมายมงคล นิยมใช้ในพิธีต่าง ๆ วันนี้เรามีสูตรการทำขนมใส่ไส้แบบง่าย ๆ ให้คุณได้ลองทำเองที่บ้าน มาติดตามวิธีการทำและเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณได้ขนมใส่ไส้ที่อร่อยและหอมหวานเหมือนต้นตำรับ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับขนมใส่ไส้ ที่มาที่ไปของขนมไทยรสชาติดี
“ขนมใส่ไส้” หรือที่เรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า “ขนมสอดไส้” เป็นขนมโบราณของไทยที่นิยมใช้ในพิธีมงคลต่าง ๆ โดยเฉพาะในพิธีหมั้น เรียกได้ว่าเป็น 1 ใน 9 ของขนมขันหมากที่ใช้สำหรับการไปสู่ขอเจ้าสาว ลักษณะเด่นคือจะเป็นขนมที่ใช้แป้งข้าวเหนียวขาวและแป้งข้าวเหนียวดำห่อหุ้มไส้มะพร้าวเคี่ยวน้ำตาลที่อยู่ภายใน จากนั้นหยอดด้วยแป้งข้าวเจ้า กะทิ และเกลือที่กวนจนสุก ห่อด้วยใบตองเป็นทรงสูง คาดด้วยทางมะพร้าว ได้เป็นขนมที่มีรสชาติหวานมันเค็ม แป้งและไส้เข้ากันอย่างลงตัว กลิ่นหอมชวนรับประทาน
แนะนำสูตรการทำขนมใส่ไส้ ทำได้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก
สำหรับสูตรการทำขนมใส่ไส้ที่เรานำมาฝากในวันนี้ เป็นสูตรขนมใส่ไส้โตนดหอมมะพร้าวอ่อนที่ให้รสชาติหวานมันอร่อย มาพร้อมกับสีเหลืองสวยงาม ซึ่งขั้นตอนการทำไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด แต่จะมีวัตถุดิบและวิธีการทำอย่างไรบ้าง ไปติดตามพร้อมกันได้เลย
ส่วนผสมไส้มะพร้าว
- ลูกมะพร้าวอ่อน
- ลูกมะพร้าวทึนทึก
- น้ำมะพร้าว 50 กรัม
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลโตนด 480 กรัม
ส่วนผสมแป้งโตนดห่อไส้มะพร้าว
- แป้งข้าวเหนียว 300 กรัม
- เนื้อตาลโตนด 170 กรัม
ส่วนผสมกะทิ
- แป้งข้าวเจ้า 120 กรัม
- แป้งถั่วเขียว 1 ช้อน
- หัวกะทิ
- หางกะทิ
- น้ำตาลทราย 2 ช้อน
- เกลือ 3/4 ช้อน
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
- เทียนอบขนม
- ใบตอง
- ใบมะพร้าวคาดเตี่ยว
วิธีการทำ
- ขุดเนื้อมะพร้าวอ่อนให้เป็นฝอยเล็ก ๆ จากนั้นตั้งกระทะ ใช้ไฟกลาง เทน้ำมะพร้าวลงไป ตามด้วยเกลือ และน้ำตาลโตนด เคี่ยวจนน้ำตาลโตนดละลายเข้ากันส่วนผสมในกระทะ แล้วจึงใส่เนื้อมะพร้าวที่ขูดเตรียมไว้ลงไป ผัดจนได้ไส้แห้งและเหนียว เสร็จแล้วตักขึ้นมาพักไว้ให้เย็น
- เมื่อไส้ที่ผัดไว้เย็นตัวลงแล้ว ให้ปั้นเป็นลูกกลม ๆ ขนาดเล็ก วางลงในหม้อ โดยไม่ลืมวางชามแก้วไว้ตรงกลาง จากนั้นจุดไฟเทียนอบขนม เมื่อไฟลุกให้ดับไฟ จนเทียนเกิดควันสีขาวแล้ววางในชามที่เตรียมไว้ ปิดฝาให้สนิท เพื่ออบให้ไส้มีกลิ่นหอม ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก็สามารถยกลงจากเตาได้
- เตรียมชามผสมแล้วเทแป้งข้าวเหนียวลงไป ตามด้วยเนื้อตาลโตนด ใช้มือคนส่วนผสมให้เข้ากัน เติมน้ำเย็นจัดลงไปเล็กน้อย นวดส่วนผสมอีกครั้ง จนกว่าจะได้แป้งเนื้อเนียนนุ่ม ไม่เหนียวติดมือ จากนั้นดึงแป้งออกมาเล็กน้อย นำไปห่อไส้มะพร้าวที่ปั้นและอบเตรียมไว้ ปั้นเป็นลูกกลม ๆ แล้ววางในถาด คลุมด้วยผ้าขาวบางและพักไว้
- เตรียมชามผสมใบใหม่ ใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งถั่วเขียว น้ำตาลทราย และเกลือลงไป จากนั้นใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน เติมหัวกะทิลงไป คนให้เข้ากัน จนกว่าแป้งจะละลายเข้ากับส่วนผสมทั้งหมด ตามด้วยหางกะทิ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง คนจนกว่าเนื้อแป้งจะข้นและหนืดขึ้นแล้วปิดไฟ
- เมื่อแป้งสุกได้ที่แล้ว ให้ใส่ไส้มะพร้าวที่ห่อแป้งไว้เรียบร้อยแล้วลงไปในหม้อจนหมด หลังจากนั้นให้ใช้ช้อนตักเนื้อแป้งพร้อมกับไส้ขึ้นมาทีละลูก ใส่ลงในใบตองเพื่อห่อและนำไปนึ่งในขั้นตอนต่อไป
- วิธีห่อใบตองก็ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด ใช้ใบตอง 2 ใบในการห่อ โดยใบที่ 1 ตัดเป็นสี่เหลี่ยมมุมเฉียงทั้ง 4 ด้าน ในลักษณะเหมือนสามเหลี่ยมชนกัน และตัดเป็นแผ่นใหญ่ ส่วนใบที่ 2 ตัดเหมือนกัน แต่ให้มีขนาดเล็กกว่า เมื่อนำมาห่อขนมวางใบที่ 1 หันด้านมันออก และใบที่ 2 หันด้านมันเข้า วางซ้อนกัน ตักแป้งและไส้มาวางแล้วเริ่มห่อ ก่อนจะใบมะพร้าวมาคาดเตี่ยวและคล้องขึ้นเข้าหากัน ปิดท้ายด้วยการกลัดกับไม้จิ้มฟัน นำขนมทั้งหมดวางเรียงลงในซึ้ง และใช้เวลานึ่งประมาณ 20 นาที ก็พร้อมเสิร์ฟ
แบ่งปันเทคนิคการทำขนมใส่ไส้ ให้ได้ตามแบบตำรับ
แม้ว่าในปัจจุบันขนมใส่ไส้ จะไม่ค่อยมีขายและหาทานได้ยาก แต่เห็นได้ชัดเลยว่าวิธีทำขนมใส่ไส้ที่เรานำมาฝากนั้น ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด นอกจากนี้ยังมีเคล็ดลับความอร่อยที่สามารถทำตามได้ง่าย ๆ โดยระหว่างปั้นไส้มะพร้าวนั้น เพื่อไม่ให้ไส้ติดมือ แนะนำให้เอานิ้วจุ่มน้ำเป็นระยะ ๆ จะช่วยให้ปั้นได้ง่ายและไวขึ้น ส่วนแป้งสำหรับห่อไส้ สามารถประยุกต์ใช้จากสีธรรมชาติได้หลายสี ไม่เพียงแต่สีจากตาลโตนด แต่ยังใช้สีเหลืองจากฟักทอง สีเขียวจากน้ำใบเตย หรือสีม่วงจากน้ำอัญชันได้เช่นกัน
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace