เห็ดเผาะ วัตถุดิบหายาก ทำได้หลายเมนู ต้ม ผัด แกง ทอด อร่อยครบสูตร

เห็ดเผาะ วัตถุดิบชั้นเลิศที่หลายคนชื่นชอบ ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ในการทานเห็ด ด้วยความรู้สึกแตกในปากเมื่อกัดเห็ดให้ขาดออกจากกัน เหมือนมีอะไรระเบิดอยู่ในปากยังไงอย่างนั้น หลายคนอาจไม่รู้ว่า เห็ดชนิดนี้ สามารถนำมาทำได้หลายเมนูด้วยกัน ซึ่งทุกคนจะคุ้นชินกับการทำเป็นต้มเสียมากกว่า วันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่า วัตถุดิบเลิศรสชนิดนี้สามารถนำมาทำเมนูอะไรได้บ้าง

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเห็ดเผาะ ของดีจากป่า หาทานได้แค่ในช่วงหน้าฝน

“เห็ดเผาะ” หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “เห็ดถอบ” มาจากลักษณะของเห็ดที่กลมและแบน ผิวด้านนอกมีสีคล้ำออกไปทางสีน้ำตาล ขนาดเล็ก เมื่อเคี้ยวแล้วจะมีเสียงดังเป๊าะหรือเผาะตามชื่อเรียกนั่นเอง นับว่าเป็นเห็ดหายากอีกหนึ่งชนิด เนื่องจากสามารถหาทานได้เฉพาะในช่วงฤดูฝนเท่านั้น พบได้มากในพื้นที่ป่าดิบชื้นและเป็นดินเหนียวปนดินแดง พบได้ในภาคเหนือและภาคอีสาน

ส่วนประโยชน์ของเห็ดเผาะนั้นก็ครอบคลุมหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน บำรุงร่างกาย และพละกำลัง ป้องกันโรคหัวใจและโรคตับ ช่วยล้างสารพิษ บรรเทาอาการโรคกระเพาะอาหาร แก้ช้ำใน ต้านการเกิดโรคเบาหวาน การอักเสบ มีสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคอัลไซเมอร์ และโรคความดันโลหิตสูงอีกด้วย

แนะนำ 3 เมนูจากเห็ดเผาะ มักรวมความอร่อยหลากหลายรูปแบบ

1.แกงเห็ดเผาะใส่น้ำใบย่านาง

ส่วนผสม

ใบย่านาง 200 กรัม, บวบหอม 1 ฟัก, เห็ดเผาะ 100 กรัม, น้ำใบย่านาง 1 ถ้วย, หอมแดง 7 – 8 หัว, ตะไคร้ซอย 1 ถ้วย, พริกขี้หนูสวน 10 – 12 เม็ด, น้ำปลา 1 ช้อนชา, น้ำปลาร้า 1 ถ้วย, ผงชูรส ตามชอบ

วิธีการทำ

นำใบย่านางมาล้างทำความสะอาด 2-3 รอบ จากนั้นใช้มือขยี้ใบย่านางในน้ำเปล่า ทำวนไปจนกว่าจะได้น้ำสีเขียวเข้มข้น เสร็จแล้วให้กรองเอาเฉพาะน้ำย่านางออกมาพักไว้ นำเห็ดเผาะไปล้างด้วยน้ำสะอาด 2-3 รอบเช่นกัน ใช้มือขัดล้างคราบดินและสิ่งสกปรกออกให้เกลี้ยง เสร็จแล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ

เตรียมตั้งหม้อต้มน้ำ รอจนน้ำเดือดแล้วใส่เห็ดเผาะลงไปต้มให้สุก หลังจากนั้นกรองเอาน้ำออกแล้วพักไว้ เตรียมครบกับสาก ใส่ตะไคร้ซอยลงไปตำจนละเอียด ตามด้วยพริกขี้หนูและหอมแดง โขลกให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี

ตั้งหม้อต้มน้ำอีกครั้ง ใส่น้ำเปล่าลงไปเพียงเล็กน้อย ตามด้วยพริกแกงที่ตำเตรียมไว้ลงไป รวนจนส่งกลิ่นหอม จากนั้นใส่น้ำปลาร้าและน้ำใบย่านางลงไป ตามด้วยเห็ดเผาะและใบชะอม ต้มต่อจนส่วนผสมในหม้อสุกดี ปรุงรสด้วยน้ำปลาและผงชูรสตามชอบ ปิดท้ายด้วยการใส่พริกขี้หนูสวนเป็นลูกลงไป รอให้แกงเดือดดีก็สามารถปิดเตา ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ

2.แกงคั่วเห็ดเผาะ

ส่วนผสม

เห็ดเผาะ 1/2 ถ้วยตวง, เนื้อปลากรอบย่าง 1/4-1/2 ถ้วยตวง, ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ, ชะอม 1/4 ถ้วยตวง, พริกชี้ฟ้าแห้ง 8-10 เม็ด, หอมแดงไทย 5 หัว, ผิวมะกรูดสับ 1 ช้อนชา, กระเทียมไทย 5-8 กลีบ, น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ, กะทิ 1 ถ้วยตวง, น้ำตาลปี๊ป 1 ช้อนชา, กะปิย่าง 2 ช้อนชา, ใบมะกรูดซอย สำหรับตกแต่ง

วิธีการทำ

นำเห็ดเผาะมาล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด 2-3 รอบ ใช้มือขัดล้างสิ่งสกปรกและสิ่งที่ปนเปื้อนออกให้เกลี้ยง เสร็จแล้วใช้มีดหั่นเห็ดเผาะเป็นชิ้นเล็กพอดีคำแล้วพักไว้ เตรียมตั้งหม้อ ต้มน้ำให้เดือด ใส่เห็ดเผาะที่ล้างเตรียมไว้ลงไปต้มให้สุก เสร็จแล้วตักขึ้นมาพักไว้

ใส่ผิวมะกรูด เกลือ และพริกชี้ฟ้าแห้งลงไปในครก โขลกให้ส่วนผสมแหลกพอหยาบ ๆ ตามด้วยตะไคร้ซอย หอมแดง กระเทียม ข่าสับ และกะปิย่าง ตำให้ละเอียดเข้ากันดี หลังจากนั้นใส่เนื้อปลากรอบย่างลงไป ตำให้ส่วนผสมเข้ากันอีกรอบ

ตั้งหม้อแล้วใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย ตามด้วยพริกแกงที่ตำเตรียมไว้ ผัดจนส่งกลิ่นหอม ก่อนจะใส่กะทิลงไปคนให้พริกแกงละลาย จากนั้นทำหางกะทิด้วยการผสมกะทิกับน้ำเปล่าเล็กน้อยเติมลงไปในหม้อ เพื่อให้แกงมีความเข้มข้นมากขึ้น 

ใส่เห็ดเผาะลงไป แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ คนให้ส่วนผสมในหม้อละลายเข้ากัน ปิดท้ายด้วยการใส่ใบชะอมลงไป รอจนใบชะอมสลด ก็สามารถตักใส่ชาม ตกแต่งด้วยใบมะกรูดซอย พร้อมเสิร์ฟ

3.ผัดเห็ดเผาะใส่ไข่

ส่วนผสม

เห็ดเผาะ 1 ถ้วย, ไข่ไก่ 1 ฟอง, กระเทียม 7 – 8 กลีบ, พริกแดง 5 เม็ด (ปรับได้ตามชอบ), ใบโหระพา 1 ถ้วย, น้ำเปล่าเล็กน้อย, ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาล ปลายช้อน, ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ, ผงชูรส 1 ช้อนชา 

วิธีการทำ

นำเห็ดเผาะมาล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด 2-3 รอบ ใช้มือขัดคราบขี้ดินออกให้หมด จากนั้นใช้มีดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เสร็จแล้วเตรียมตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด แล้วจึงใส่เห็ดเผาะลงไปต้มให้สุกแล้วตักขึ้นมาพักไว้

โขลกกระเทียมกับพริกแดงพอหยาบ ๆ หลังจากนั้นตั้งกระทะและใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย ตอกไข่ไก่ลงไปผัดให้สุก ตามด้วยกระเทียม พริกแดง และเห็ดเผาะ ผัดให้เข้ากันก่อนจะปรุงรสด้วย ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว น้ำตาล และผงชูรส ปิดท้ายด้วยการใส่ใบโหระพาลงไป ผัดให้พอสลดก็พร้อมเสิร์ฟ

ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace