แกงพะแนง ขึ้นแท่นอันดับ 1 แกงที่ดีที่สุดในโลกในหมวดอาหารประเภทสตูว์จาก TasteAtlas เว็บไซต์ด้านอาหารระดับโลก เรียกได้ว่ามาแรงแซงทุกแกงเลยก็ว่าได้ สร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวไทยเป็นอย่างมาก อย่างที่เราทราบกันดีว่า วัฒนธรรมด้านอาหารการกินของไทยนั้น ไม่แพ้ชาติใดในโลก ด้วยความพิถีพิถันละใส่ใจในทุกขั้นตอน ทำให้ได้มาซึ่งจานเด็ดแสนอร่อย รสชาติจัดจานเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
จากวัตถุดิบสดใหม่ในดินแดนที่มีความสมบูรณ์ สู่ขั้นตอนการทำและวิธีการปรุงที่มีความประณีต พร้อมเสิร์ฟในจานที่ได้รับการตกแต่งมาเป็นอย่างดี ถูกปากถูกใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จึงไม่น่าแปลกใจที่อาหารไทยมักติดอันดับอาหารที่ดีที่สุดอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังมีแกงไทยอีกหลากหลายเมนูที่ติดอันดับในลิสต์ แต่ในบทความนี้ Foodspace จะเน้นหนักไปในส่วนของการทำความรู้จักกับเมนูแกงอันดับ 1 ของโลกกันก่อน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
เปิดตำนานความอร่อย พาไปทำความรู้จักกับประวัติของแกงพะแนง ที่มาที่ไปก่อนมาเป็นเมนูระดับโลก
แกงพะแนง เป็นอาหารไทยประเภทแกงข้นที่มีรสชาติโดดเด่น เน้นไปทางรสหวานและเค็ม เอกลักษณ์อยู่ที่เรื่องแกงที่ประกอบไปด้วยส่วนผสมหลักอย่าง เช่น พริก ข่า ตะไคร้ รากผักชี เมดผักชี เม็ดยี่หร่า กระเทียม อบเชย และเกลือ สูตรพะแนงก็จะแตกต่างกันออกไปตามเนื้อสัตว์ที่เลือกใส่ ซึ่งมีทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ และอื่น ๆ ตามความชื่นชอบ
เริ่มแรกคำว่า “พะแนง” ได้ปรากฏครั้งแรกในหนังสือของหม่อมซ่มจีน ภรรยาในพระยาราชานุประพันธ์ หรือคุณสุดใจ บุนนาค มีชื่อว่า “ตำรากับเข้า” ตีพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. 2433 โดยในสมัยนั้นมีการออกเสียงและสะกดเป็น “ผะแนง” ซึ่งมีที่มาจากเมนูอาหารที่ชื่อไก่ผะแนงหรือไก่ทาพริกขิง นั่นหมายความว่าส่วนผสมหลักของเครื่องแกงคือ พริกกับขิง แล้วค่อยนำไปปรุงผสมกับน้ำกะทิ จากนั้นย่างบนไฟ
แต่ด้วยกรรมวิธีที่ยุ่งยากและใช้เวลานาน ทำให้ต้องมีการปรับสูตรและขั้นตอนมาใช้เนื้อสัตว์ ที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วเปลี่ยนมาผัดกับเครื่องแกงแทนการย่างไฟ จนกลายมาเป็นสูตรพะแนงหมูแสนอร่อยอย่างในปัจจุบัน และในที่สุดก็ได้รับรางวัลแกงที่ดีที่สุดจากเว็บชื่อดังระดับโลกในปี 2023 ด้วยคะแนนสูงถึง 4.8 คะแนน มีคะแนนนำหน้าแกงกะหรี่ญี่ปุ่น และหม้อไฟหม่าล่าแบบเสฉวน
สำหรับการจัดอันดับอาหารประเภท “สตูว์” จาก TasteAtlas จะเป็นอาหารที่ถูกปรุงด้วยการต้มเนื้อหรือผักชนิดต่าง ๆ ด้วยกรรมวิธีการต้มเป็นเวลานานบนไฟอ่อน ๆ และในปีล่าสุด อาหารไทยติดอันดับอาหารประเภทสตูว์ในหลายอันดับด้วยกัน ทั้งอันดับที่ 8 แกงมัสมั่น, อันดับที่ 17 แกงเขียวหวาน, อันดับที่ 33 แกงกะหรี่ไทย, อันดับที่ 35 แกงเผ็ด และอันดับที่ 90 ขนมจีนน้ำยา
พาส่องประโยชน์ของแกงพะแนง เมนูแสนอร่อยที่ไม่ได้มีดีแค่เรื่องรสชาติ มาพร้อมคุณค่าทางอาหารเพียบ
แกงพะแนง เป็นเมนูที่โดดเด่นในเรื่องของเครื่องแกงที่เต็มไปด้วยสมุนไพรไทย ที่มีสรรพคุณมากมายต่อร่างกาย แถมยังเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง อุดมไปด้วยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ รวมถึงไขมันจากกะทิ แต่ประโยชน์ของแกงพะแนงที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ เราสามารถเลือกรับวิตามินและแร่ธาตุจากผักที่ชื่นชอบได้ด้วยตัวเอง จานเดียว เรียกได้ว่าครบจบทั้ง 5 หมู่สารอาหารเลยทีเดียว
How to ทำแกงพะแนงให้อร่อยกลมกล่อมเหมือนต้นตำรับ สูตรเด็ดเอาใจคนชอบอาหารไทย ทำง่ายมาก
ส่วนผสมทำพริกแกง
- พริกแห้งใหญ่ 4–6 เม็ด
- พริกแห้งเล็ก 8–10 เม็ด
- พริกไทยเม็ด 1/5 ช้อนชา
- เม็ดผักชี 1-2 ช้อนชา
- เม็ดยี่หร่า 1–2 ช้อนชา
- รากผักชี
- ข่าซอย
- ตะไคร้
- เกลือป่น 1/5 ช้อนชา
- ผิวมะกรูด 1/5 ช้อนชา
- กระเทียม
- หอมแดง
ส่วนผสมในการทำแกงพะแนง
- กะทิ
- เนื้อหมู
- ใบมะกรูดฉีกก้าน
- น้ำปลา
- น้ำตาลปี๊บ
- ใบโหระพา
- ใบมะกรูดซอย สำหรับแต่ง
- พริกชี้ฟ้าแดงซอย สำหรับแต่ง
วิธีทำเครื่องแกงพะแนง
- ขั้นตอนแรกให้นำพริกแห้งทั้งใหญ่และเล็กไปแช่น้ำ รอให้นิ่ม
- ระหว่างรอให้นำเม็ดผักชีและเม็ดยี่หร่าไปคั่วในกระทะจนส่งกลิ่นหอม แล้วนำขึ้นมาโขกให้ละเอียดพร้อมกับเม็ดพริกไทย
- เมื่อพริกแห้งนิ่มได้ที่ให้ใส่ตามลงไปโขลกให้ละเอียดเข้ากันอีกครั้ง แล้วใส่เกลือลงไปเล็กน้อย
- ใส่ข่าและตะไคร้ซอยลงไปโขลกให้ละเอียด ก่อนจะโขลกส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้งให้ใส่หอมแดงและกระเทียมลงไปก่อน ปิดท้ายด้วยผิวมะกรูดก็จะได้เครื่องแกง
วิธีทำแกงพะแนงหมู
- เริ่มต้นด้วยการตั้งกระทะบนไฟอ่อนถึงปานกลาง เทหัวกะทิลงไปแล้วรอให้แตกมัน จากนั้นค่อยเติมหางกะทิลงไป เคี่ยวให้แตกมันอีกครั้งก่อนเติมเครื่องแกง 2–3 ช้อนโต๊ะ
- โรยใบมะกรูดเล็กน้อยให้เกิดกลิ่นหอมและดับกลิ่นคาวของเนื้อหมูที่ใส่ตามลงไป เร่งไฟให้แรงขึ้น แล้วเคี่ยววนไปเรื่อย ๆ
- สังเกตเมื่อเนื้อหมูเริ่มสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊ป แล้วจึงเคี่ยวต่อ จากนั้นใส่ผักตามชอบ ปิดท้ายด้วยการเคี่ยวให้ส่วนผสมทุกอย่างในหม้อเข้ากันอย่างลงตัว
- จัดเสิร์ฟพร้อมกับโรยหน้าด้วยใบมะกรูดซอยและพริกชี้ฟ้าซอย ทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ รับรองอร่อยฟิน