ไม่ว่าจะอยู่ในฤดูไหน อุณหภูมิของประเทศเขตร้อนอย่างประเทศไทยมักจะสูงเป็นเรื่องธรรมดา อากาศร้อน ๆ ทำให้ใครหลายคนมองหาเมนูคลายร้อนมาเติมความสดชื่นระหว่างวัน มังคุด เป็นหนึ่งในผลไม้ประจำฤดูฝนที่มาพร้อมกับความชุ่มฉ่ำของสายฝน รสชาติหวานฉ่ำที่ทำให้ใครหลายคนติดใจนี้ สามารถนำไปทำเป็นเมนูอาหารจากมังคุดได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นเมนูอาหารคาว หรือขนมหวานก็อร่อยลงตัว
ในบทความนี้เราจะพาไปส่องสูตรเด็ดความอร่อยตามสไตล์อาหารไทย รับรองเลยว่าแต่ละสูตรล้วนแล้วแต่เป็นเมนูทำง่ายที่ทำตามได้ไม่ยาก แต่ก่อนจะเข้าครัวไปทดสอบฝีมือ ตามเราทำความรู้จักกับผลไม้เมืองร้อนพร้อมเรียนรู้ประโยชน์และโทษของวัตถุดิบหลักกันก่อน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับมังคุด ผลไม้แสนอร่อย เติมความรู้สึกสดชื่น ดีต่อสุขภาพ
มังคุด จัดเป็นหนึ่งในไม้ผลเขตร้อน ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในแถบประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งยังเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียงมากในประเทศไทย ประเทศที่มีการผลิตมังคุดมากที่สุดในโลกเลยทีเดียว ด้วยความโดดเด่นของรูปลักษณ์ บวกกับสีสันและเนื้อนุ่มที่มีรสหวานฉ่ำชวนรับประทาน จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชินีแห่งผลไม้” โดยพันธุ์มังคุดที่มีเพียงชนิดเดียวจึงถูกเรียกว่า “มังคุด” นั่นเอง เนื่องจากมีลักษณะทางพันธุกรรมที่พัฒนาเป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างได้ยาก แม้จะมีชื่อเรียกผลไม้ชนิดนี้แตกต่างกันได้ตามภูมิภาคที่ปลูก แต่ในความจริงแล้วคือสายพันธุ์เดียวกันทั้งหมด
ผลไม้หน้าฝนชนิดนี้สามารถนำทุกส่วนมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เริ่มตั้งแต่สารสกัดจากเปลือกสามารถนำมาใช้รักษาโรคผิวหนังชนิดต่าง ๆ ได้ ทั้งยังสามารถนำมาใช้เป็นส่วนผสมของน้ำยาฆ่าเชื้อในปากหรือน้ำยาบ้วนปาก นอกจากนี้ในมังคุดยังมีสรรพคุณทางยามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการออกฤทธิ์บรรเทาอาการท้องเดิน ต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยสมานแผล ป้องกันแผลติดเชื้อ ออกฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง บรรเทาอาการแพ้ ป้องกันการแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือด ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง และโรคเกี่ยวกับหัวใจ
นอกจากจะมีประโยชน์มากมาย ก็ยังมีข้อควรระวังในการทานด้วยเช่นกัน เนื่องจากสารในเปลือกมังคุดออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง อาจเป็นผลให้ไปเพิ่มความดันโลหิต ดังนั้นผู้ป่วยที่มีโรคความดันโลหิตสูงจึงควรทานอย่างระมัดระวัง ทั้งนี้หากทานในปริมาณที่มากเกินไปอาจเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดให้มากขึ้นด้วย
บอกต่อ 3 สูตรการทำเมนูอาหารคาวและหวานจากมังคุด ทำตามง่าย
แกงเขียวหวานมังคุด
ส่วนผสม
เนื้ออกไก่ 200 กรัม, พริกแกงเขียวหวาน 100 กรัม, กะทิ 300 มิลลิลิตร, น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ, ใบโหระพา ½ ถ้วยตวง, มังคุด 50 กรัม, มะเขือเปราะ 50 กรัม, มะเขือพวง 50 กรัม, ใบมะกรูด 10 กรัม, พริกชี้ฟ้าแดง 20 กรัม
วิธีการทำ
เริ่มต้นด้วยการเตรียมวัตถุดิบในการทำ โดยนำมังคุดมาปอกเปลือก แล้วใช้มีดแกะทีละกลีบ จากนั้นนำไปแช่น้ำเปล่าที่ผสมน้ำมะนาวเตรียมไว้จะช่วยป้องกันไม่ให้เนื้อของผลไม้ดำ ขั้นตอนต่อไปให้ตั้งกระทะแล้วเทกะทิลงไปเล็กน้อย ตามด้วยพริกแกงเขียวหวาน ผัดจนแตกมันแล้วค่อยใส่เนื้ออกไก่ลงไปผัดให้พอสุก เติมกะทิส่วนที่เหลือลงไป ตามด้วยมะเขือเปราะ และมะเขือพวง
รอให้น้ำแกงเดือดจึงปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ คนให้ส่วนผสมเข้ากัน รอจนแกงเดือดแล้วจึงใส่ใบมะกรูดฉีก พริกชี้ฟ้า ใบโหระพา และมังคุดที่เตรียมไว้ลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้งก็พร้อมเสิร์ฟ
2.ยำมังคุด
ส่วนผสม
มังคุด 1 กิโลกรัม, กุ้งแห้ง 1 ถ้วย, หมูสับ 1 ขีด, มะนาว 1 ลูก, น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนชา, พริกขี้หนูเม็ดจิ๋ว 30 เม็ด, หอมแดง 3 หัว, ผักชีใบเลื่อย 1 ต้น, น้ำสะอาด สำหรับใช้ลวกหมู, เกลือป่น นิดหน่อย สำหรับใช้ละลายน้ำแช่มังคุด
วิธีการทำ
ขั้นตอนแรกให้เตรียมชามผสมแล้วเทน้ำเปล่าตามด้วยเกลือลงไปละลายให้เข้ากัน นำเนื้อมังคุดลงไปแช่เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อดำช้ำแล้วพักไว้ จากนั้นหันมาตั้งหม้อต้มน้ำสำหรับลวกหมูสับ เมื่อลวกจนสุกแล้วตักใส่ถ้วยพักไว้ ขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นในส่วนของการทำน้ำยำ โดยให้บีบมะนาวลงไปในชามผสม ตามด้วยน้ำปลาและน้ำตาลมะพร้าว คนส่วนผสมให้เข้ากัน เติมพริกสดกับหอมแดงลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นให้ใส่หมูสับที่ลวกเตรียมไว้ตามลงไปพร้อมกับกุ้งแห้ง และผักชีใบเลื่อย คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ชิมและปรุงรสตามชอบก็เสิร์ฟได้เลย
3.มังคุดลอยแก้ว
ส่วนผสม
มังคุด, น้ำตาล 1 ถ้วยตวง, น้ำเปล่า 1 ลิตร, ใบเตย 1-2 ใบ, เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีการทำ
ขั้นตอนแรกให้เริ่มจากการเตรียมวัตถุดิบโดยการปอกมังคุดแล้วนำเนื้อที่ได้ไปแช่น้ำเกลือป้องกันความดำและช้ำ ขั้นตอนต่อไปตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด ใส่น้ำตาล เกลือ และใบเตยลงไปต้มพร้อมกัน เมื่อน้ำตาลและเกลือละลายดีให้ปิดเตาแล้วยกลงจากเตามาพักไว้ให้เย็นตัวลง หลังจากนั้นจึงค่อยนำมาเทราดมังคุดที่แกะเตรียมไว้ นำไปแช่เย็นหรือใส่น้ำแข็งเสิร์ฟได้ทันที รับรองเลยว่าอร่อยสดชื่นแน่นอน
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace