เครป เมนูขนมหวานสุดโปรดของใครหลายคน ที่บอกเลยว่าห่างหายไปนานไม่ได้ ต้องกลับมาซ้ำด้วยความติดใจ ด้วยความหอมหวานละมุน แป้งกรอบสะใจ ใส่ไส้ได้ตามชอบ จะเมนูคาวหรือหวานก็เลือกทานได้แบบไม่มีเบื่อ หลายคนชื่นชอบจนอยากทำทานเองกันไปเลย แน่นอนว่าคุณจะไม่ผิดหวัง เพราะวันนี้เราจัดสูตรเด็ดความอร่อยมาเสิร์ฟถึงที่ ชวนเข้าครัวไปทำเมนูของหวานแสนอร่อย ทำตามง่าย ทำขายก็ดี พร้อมแล้วไปลุยกันเลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
พาไปทำความรู้จักเครปคืออะไร ความเป็นมาก่อนมาเป็นเมนูของหวานขวัญใจสายขนม
เครป หรือที่หลายคนเรียกกันว่า “เครปญี่ปุ่น” เป็นเมนูขนมชนิดหนึ่งที่ไม่ได้มาจากญี่ปุ่น เพียงแต่ได้รับการปรับปรุงสูตร ดัดแปลงรูปร่าง และใส่ไส้จากวัตถุดิบท้องถิ่นตามแบบฉบับของญี่ปุ่น ซึ่งความจริงแล้วขนมชนิดนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากประเทศฝรั่งเศส เรียกว่า “กาเล็ตต์” โดยนำแป้งบักวีตมานวดกับน้ำมันและเกลือ ได้ออกมาเป็นแปงโดว์ จากนั้นนำไปอบจนสุก จนได้รับความนิยมและแพร่หลายไปทั่วโลก
ในปัจจุบันเครป เป็นอาหารว่างที่มีให้เลือกทานหลากหลายสไตล์ แต่ยังคงไว้ซึ่งส่วนผสมหลักเป็นแป้งสาลีหรือแป้งเค้ก น้ำตาลทราย นม เกลือ และไข่ไก่ และอาจมีการดัดแปลงตามสูตรของแต่ละคน ปิดท้ายด้วยการพับเป็นรูปสามเหลี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์และเสน่ห์ดึงดูดให้คนรักของหวานต้องหลงใหล
แบ่งปันสูตรเครปแสนอร่อย ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก มือใหม่ก็ทำได้ อร่อยง่าย ๆ ได้ที่บ้าน
ต้องยอมรับเลยว่าเครปได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในไทย เรียกได้ว่าเป็นเมนูของว่างที่สามารถครอบครองพื้นที่ในหัวใจของคนทุกเพศทุกวัยกันไปเลย หาทานได้ง่าย แถมยังมีหลากหลายสูตรให้เลือกทาน รสชาติความอร่อยก็แตกต่างกันไปตามแป้งและไส้ที่เลือกใส่ มีให้เลือกทั้งแบบกรอบ แบบนิ่ม แบบเย็น แบบร้อน แป้งชาโคล แป้งช็อกโกแลต แป้งสตอร์เบอรี่ ไส้คาว ไส้หวาน และอื่น ๆ อีกเพียบ เป็นสีสันและความสุขเล็ก ๆ ที่ได้ออกแบบเมนูโปรดด้วยตัวเอง แต่หากใครอยากลองเข้าครัวทำทานเองที่บ้านก็บอกเลยว่าง่ายมาก ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ได้เลย
ส่วนผสมในการทำแป้งเครป
- แป้งอเนกประสงค์ 300 กรัม
- เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- กลิ่นวนิลลา 2 ช้อนชา
- นมสดจืด 150 มิลลิลิตร
- น้ำปูนใส 400 มิลลิลิตร
- เกลือ ½ ช้อนชา
- น้ำมันข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 90 กรัม
ส่วนผสมไส้คาว (ปรับได้ตามชอบ)
- ไข่ไก่
- หมูหยอง
- ไส้กรอก
- หมูสับคั่ว
- ปูอัด
- ซอสพริก
- ซอสมะเขือเทศ
- ซอสพิซซ่า
- มายองเนส
- พริกไทยป่น
ขั้นตอนและวิธีการทำ
- เริ่มขั้นตอนแรกจากทำส่วนของแป้ง โดยการเตรียมชามผสมสำหรับการร่อนแป้งเอนกประสงค์ เบกกิ้งโซดา เกลือเล็กน้อย และกลิ่นวนิลลาลงไปพร้อมกัน แล้วจึงใส่น้ำตาลทรายตามลงไป จากนั้นคนให้เข้ากันอีกครั้ง
- หลังจากเตรียมส่วนผสมแห้งเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นการใส่ส่วนผสมที่เป็นน้ำลงไป เริ่มจากนมสดจืด น้ำมันข้าวโพด และน้ำปูนใส คนให้เข้ากันดีแล้วจึงตอกไข่ไก่ลงไปตีให้แตก แล้วคนส่วนผสมทั้งหมดให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน และระวังอย่างให้แป้งเป็นก้อน
- ทำการรองแป้งที่ได้ผ่านตะแกรงลงในชามผสมอีกใบ เพื่อให้ได้เนื้อแป้งที่เนียน แรปพลาสติกให้มิดชิดหรือจะใส่กล่องปิดฝาพักไว้ในตู้เย็นเป็นเวลาประมาณ 20-30 นาที ขั้นตอนนี้จะช่วยให้แป้งเซตตัวได้ดี แถมยังทำให้กรอบง่ายขึ้น
- เตรียมตั้งกระทะสำหรับทำเครป โดยวอร์มเตาแล้วรอให้ร้อนด้วยไฟอ่อนถึงปานกลาง หรือหากไม่มีเตาก็สามารถใช้กระทะเทฟลอนทั่วไปก็ได้เช่นกัน ก่อนเริ่มทอดแป้งให้คนส่วนผสมแป้งก่อนทุกครั้ง เพื่อให้ได้แป้งเนื้อเนียนสวย พร้อมแล้วก็เริ่มทดสอบแป้งบนเตากันก่อน หากความร้อนพอดีแล้วก็ลงมือได้เลย
- ตักแป้งเทลงตรงกลางของเตา จากนั้นใช้ไม้หมุนเกลี่ยเนื้อแป้งให้บางเสมอกันทั่วทั้งแผ่น เมื่อแป้งเริ่มเซตตัว ค่อย ๆ ใส่ไส้ได้ตามความชอบ จากนั้นรอให้แป้งกรอบก็สามารถพับเป็นชิ้นสามเหลี่ยม พักไว้ให้อุ่นเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟเมนูขนมยอดฮิต
แนะนำเทคนิคการทำเครป สูตรแป้งบาง หอมละมุน กรอบนาน รับประกันความอร่อย ทำตามได้ไม่ยาก
แม้เครปจะเป็นเมนูเบเกอรีที่สามารถทำตามได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน แต่การทำให้ได้เครปแป้งกรอบถูกใจจำเป็นต้องอาศัยเทคนิคพอสมควร แม้จะเป็นเช่นนั้นก็อย่ากังวลใจไป เพราะเรามีเคล็ดลับการทำให้แป้งกรอบนานมาฝากกัน เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมแป้ง แนะนำให้ร่อนแป้งด้วยตะแกรงก่อนเพื่อให้ได้เนื้อแป้งที่เนียนสวย การใส่น้ำปูนใสลงไปในส่วนผสมแป้งก็ทำให้แป้งกรอบนานขึ้นได้เช่นเดียวกัน
อีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญและขาดไม่ได้เลยก็คือ เตา จำเป็นต้องรักษาอุณหภูมิให้พอเหมาะ ควรใช้ไฟอ่อนค่อนไปทางปานกลาง ก่อนเทแป้งลงไป ให้ใช้น้ำมันพืชทาตรงขอบ เพื่อป้องกันแป้งติดเตา หลังจากบรรจงใส่ไส้ที่ชื่นชอบลงไปแล้ว ควรรอให้แป้งสุกได้ที่ก่อน สังเกตจากสีน้ำตาลของแผ่นแป้ง หลังจากนั้นให้พับแป้งแล้วนำขึ้นมาพักไว้ให้คลายความร้อนก่อนเสิร์ฟ และถ้าหากแป้งเหลือ สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นช่องปกติได้ไม่เกิน 2 วัน
ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Foodspace